ถามแพทย์

  • ถ้าผู้ชายมีเชื้อ HPV แต่ใส่ถุงยางอนามัยขนาดมีเพศสัมพันธ์ตลอด จะป้องกันได้ไหม แล้วผู้หญิงมีโอกาสติดโรคกลายไปเป็นมะเร็งมากน้อยแค่ไหน

  •  Jupiter Zen
    สมาชิก
    คำถามที่1 ถ้าผู้ชายมีเชื้อHPV แต่ใส่ถุงยางอนามัยขนาดมีเพศสัมพันธุ์ตลอดมีโอกาสทำฝ่ายหญิงติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดเป็นมะเร็งทางอวัยวะเพศหญิงกี่เปอร์เซ็นต์ครับ คำถามที่2 ผู้ชายที่มีเชื้อ HPV ร่างกายจะทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อออกจากร่างกายในระยะเวลากี่ปีครับ(ถ้าหยุดการมีเพศสัมพันธุ์ไปเลยหลังจากคิดว่าตัวเองได้รับเชื้อHPV) แล้วหลังจากร่างกายกำจัดเชื้อHPVออกไปแล้วถ้ากลับมามีเพศสัมพันธุ์จะยังสามารถแพร่เชื้อ HPV(เชื้อเก่าที่เคยติด) ให้ฝ่ายหญิงได้หรือเปล่าครับ
    Jupiter Zen  พญ.นรมน
    สมาชิก

     สวัสดีค่ะคุณ Jupiter Zen

    HPV หรือชื่อเต็มว่า Human Papillomavirus เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อเอชพีวี ซึ่งส่วนใหญ่มักทำให้เกิดหูดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ เชื้อ HPV บางสายพันธุ์อาจเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งชนิดต่าง ๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งทวารหนัก  มะเร็งช่องปากและลำคอ เป็นต้น ระยะฟักตัวของโรคอาจจะใช้เวลาได้ตั้งแต่ 1-3 เดือน

    เนื่องจากเป็นโรคที่ติดต่อกันผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งขณะมีเพศสัมพันธ์ จึงแนะนำการใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการรับเชื้อหรือแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ไม่สามารถบอกได้ว่าหากไม่ใส่ถุงยางอนามัย จะติดเชื้อกี่เปอร์เซ็นต์หรือจะกลายไปเป็นมะเร็งกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่ทราบว่าสายพันธุ์ของบุคคลแต่ละคนเป็อน่างไร และในบางคนก็จะกำจัดเชื้อไปได้ มีเพียงส่วนน้อยที่กลายไปเป็นมะเร็งตรงปากมดลูกต่อไป

    ผู้ชายที่มีเชื้อ HPV ส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการ และบางคนอาจจะกำจัดเชื้อออกไปได้เองในที่สุด แต่หากไปมีการรับเชื้อมาใหม่ แม้จะเป็นเชื้อเก่าที่เคยติดก็จะติดเชื้อกลับมาเป็นซ้ำและแพร่เชื้อให้เพศหญิงที่ไปมีเพศสัมพันธ์ด้วยได้ ดังนั้นควรป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์ด้วยการใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง