ถามแพทย์

  • หลั่งน้ำอสุจิไปเมื่อ 1 พ.ย. แล้วมีเพศสัมพันธ์ 2 พ.ย. ไม่ใส่ถุงยาง หลั่งนอก แล้วมีการสอดใส่โดยไม่ใส่ถุงยาง แล้วจึงใส่ถุงยาง จะท้องไหม

  •  Thanaphum Bubaso
    สมาชิก
    วันที่1พ.ย. เวลา23.00 ผมช่วยตัวเองจนหลั่งน้ำ1ครั้ง แล้ววันที่2พ.ย. เวลา19.00 ผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนรอบแรก(ไม่ใส่ถุงยางอนามัย) จนหลั่งนอก จากนั้นผมล้างออกด้วยน้ำ แล้วฉี่ออกมาด้วย แล้วเวลา20.00 เผลอสอดใส่กันโดยไม่ใส่ถุงยางอนามัยจนผมกระตุกนิดนึง ผมก็เลยให้แฟนมาสวมถุงยางอนามัยเพราะกลัวน้ำอสุจิที่หลงเหลือออกมากับน้ำหล่อลื่น หลังจากนั้นก็หลั่งโดยสวมถุงยาง ปล.แฟนผมอยู่ในช่วงตกไข่ คำถามที่1 : ล้างน้ำ + ฉี่ จะมีน้ำอสุจิหลงเหลือไหม มากน้อยแค่ไหน คำถามที่2 ืื: ในกรณีนี้ผมเสี่ยงจะตั้งครรภ์มากน้อยแค่ไหน คำถามที่3 ืื: การช่วยตัวเองจนหลั่งไปแล้ว1รอบ แล้วมีsexวันต่อมา น้ำอสุจิจะอ่อนแอลงไหม ขอบคุณที่ตอบคำถามครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Pongsit009,

                           การหลั่งน้ำอสุจิในวันที่ 1 พ.ย. จากการช่วยตัวเอง แล้วมามีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 2 พ.ย. อสุจิก็ไม่น่ามีเหลือค้างอยู่ในท่อปัสสาวะแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน แล้วใช้วิธีการหลั่งนอก ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4%-22% ค่ะ  ส่วนหลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมง หากมีการสอดใส่โดยไม่สวมถุงยางอนามัย อสุจิที่อาจมีค้างอยู่ในท่อปัสสาวะ อาจออกมากับน้ำหล่อลื่น และทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ แต่ก็ถือว่าน้อยมากมาก และเมื่อได้ใส่ถุงยางอนามัยต่อ และมีเพศสัมพันธ์จนเสร็จ ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2%-18% ค่ะ 

                           จากคำถาม

                           1. การล้างอวัยวะเพศและปัสสาวะออกหลังจากที่มีการหลั่งน้ำอสุจิไปแล้ว อสุจิที่อจมีค้างในท่อปัสสาวะก็ถือว่าแทบไม่มีแล้วค่ะ

                           2. โอกาสในการตั้งครรภ์จากครั้งแรก คือ  4%-22% ส่วนจากครั้งที่  2 คือ 2%-18% ค่ะ 

                           3. การหลั่งน้ำอสุจิไปแล้ว 1 วัน อสุจิไม่น่ามีเหลือค้างในท่อปัสสาวะแล้วค่ะ