ถามแพทย์

  • ปวดหัว ท้องผูก

  •  oneyou1563
    สมาชิก
    ปวดหัวท้องผุก

    สวัสดีค่ะ คุณ oneyou1563,

                                     ท้องผูกเป็นอาการ แต่ไม่ใช่โรค อาการที่จะเรียกว่าท้องผูก คือ ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์หรือน้อยกว่าปกติที่เคยเป็น อุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง เป็นเม็ดเล็ก ๆ รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่ออก หรือถ่ายได้ไม่สุด ถ่ายอุจจาระออกได้ยาก ต้องใช้แรงเบ่งมากหรือใช้มือช่วยล้วง 

                                     ท้องผูกเกิดได้จากหลายสาเหตุหลายปัจจัย ได้แก่

    -                    เกิดจากลำไส้เคลื่อนลดลง ทั้งนี้เพราะขาดตัวกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ จากการที่มีลำอุจจาระเล็ก เช่น จากกินอาหารที่มีกากใยน้อย  ดื่มน้ำน้อย

    -                    จากการขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย จึงส่งผลให้ลำไส้บีบตัวเคลื่อนตัวช้า

    -                    จากปัญหาทางอารมณ์ เช่นความเครียด ความวิตกกังวล ส่งผลให้ลำไส้ ลดการบีบตัวลง

    -                    การรับประทานยาบางชนิด อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงเป็นอาการท้องผูกขึ้นได้ เช่น ยาลดกรด ยารักษาอาการซึมเศร้า ยารักษาอาการชัก อาหารเสริมกลุ่มแคลเซียมและธาตุเหล็ก ยาระงับปวดชนิดโอปิออยด์ เป็นต้น

    -                    สภาวะบางอย่างที่ก่อให้เกิดการอุดตันภายในลำไส้ใหญ่หรือบริเวณทวารหนักอาจทำให้อุจจาระเคลื่อนตัวออกมาได้ลำบาก  เช่น  แผลปริขอบทวารหนัก ลำไส้อุดตัน เนื้องอกหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่  เป็นต้น

    -                    สภาวะทางร่างกายที่ส่งผลต่อฮอร์โมน  โดยปกติฮอร์โมนจะช่วยให้ของเหลวและการทำงานภายในร่างกายเกิดความสมดุล หากฮอร์โมนเสียสมดุล สามารถนำไปสู่อาการท้องผูกได้ เช่น ในภาวะการตั้งครรภ์ ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ  เป็นต้น

     

    สำหรับอาการปวดศีรษะของคุณ  oneyou1563 อาจเป็นผลจากความเครียด จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ท้องผูก ในทางกลับกัน อาจเป็นเพราะท้องผูกเลยทำให้มีอาการปวดศีรษะได้ค่ะ

     

    หากอาการท้องผูกไม่ได้เกิดจากโรคที่เป็นอันตราย  การรักษา ในเบื้องต้น ได้แก่  การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและรับประทานอาหาร รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เน้นผักและผลไม้สด ธัญพืชต่างๆ  ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อทำให้อุจจาระนิ่มตัว ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหว  ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลาในแต่ละวัน ไม่ควรอั้นอุจจาระหรือรีบร้อนในการขับถ่าย

                                หากการปรับพฤติกรรมในข้างต้นยังไม่ช่วยให้อาการท้องผูกดีขึ้น การรับประทานยาจะช่วยให้การขับถ่ายอุจจาระทำได้ง่ายขึ้น โดยมียาหลายกลุ่มที่ช่วย เช่น เส้นใยหรือไฟเบอร์ ยาระบายกลุ่มกระตุ้น เช่น ดัลโคแลค (Dulcolax) บิสซาโคดิล (Bisacodyl) ยาเซนโนไซด์ (Sennosides)  ยาระบายกลุ่มออสโมซิส ที่จะออกฤทธิ์ดูดซึมน้ำกลับเข้าสู่ลำไส้ใหญ่มาก เช่น แลคตูโลส (Lactulose)  ยาเหน็บและการสวนอุจจาระ  เป็นต้น

     

                             หากคุณ oneyou1563 ได้ปรับพฤติกรรมและลองใช้ยาระบายช่วยแล้ว ยังมีอาการท้องผูกเรื้อรัง หรือไม่ถ่ายอุจจาระเกิน 7 วันมีท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายอุจจาระมีเลือดปน มีอาการปวดท้องร่วมด้วย ควรพบแพทย์ค่ะ