หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศบวม เวลาจับจะรู้สึกเจ็บ ควรทำอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ Thail,

                  อาการที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศบวม เจ็บ อาจเกิดจาก

                1. การระคายเคืองจากสารเคมีต่างๆ เช่น สบู่ แป้ง น้ำหอม เป็นต้น

                2. การโดนแมลงสัตว์กัดต่อย

                  3. ปลายองคชาตอักเสบ (balanitis) โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรีย อาการคือผิวหนังที่บริเวณปลายองคชาตจะบวมแดง หรืออาจมีผื่นแดงร่วม หากเกิดจากการติดเชื้อรา มักมีอาการคัน เจ็บแสบ หากเป็นเชื้อแบคทีเรีย มักมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีน้ำเหลืองข้นๆ ออกจากท่อปัสสาวะได้ 

                 4.การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม เริม เป็นต้น หากเป็นเริม ก็จะเห็นมีตุ่มน้ำใส ซึ่งต่อมาจะแตกออกเป็นแผลให้เห็น ปลายอวัยวะเพศอาจบวม แดงลอก หากเป็นหนองใน ก็มักจะมีหนองหรือน้ำข้นๆ ไหลจากปลายอวัยวะเพศให้เห็นร่วมด้วย และมีอาการปัสสาวะแสบ ขัดร่วม

                หากก่อนหน้านั้นมีเพศสัมพันธ์ และมีน้ำเหลืองข้นๆ หรือหนองไหลออกจากอวัยวะเพศร่วมด้วย แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ เพราะหากเป็นหนองในแท้หรือหนองในเทียม แล้วไม่รักษา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ 

               แต่หากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาก่อน ก็น่าจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ดังกล่าวไป ซึ่งหากยังไม่ได้มีหนองไหลซึมออกมาให้เห็น อาจดูแลตนเองไปก่อน เช่น การถลกหนังหุ้มปลาย เพื่อล้างอวัยวะเพศด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด หรืออาจใช้น้ำเกลือสำหรับล้างแผลก็ได้ งดการใช้สบู่ต่างๆ ไปก่อน และใช้มือที่สะอาดถูเบาๆ เพื่อขจัดสิ่งหมักหมมที่ตกค้าง แล้วซับให้แห้ง ควรล้างบ่อยๆ วันละ 2-3 ครั้ง และเมื่อจะปัสสาวะ ควรล้างมือทุกครั้งก่อนจับอวัยวะเพศ และต้องถลกหนังหุ้มปลายทุกครั้งที่ปัสสาวะ 

                แต่หากอาการบวม เจ็บ เป็นมากขึ้น หรือมีน้ำเหลืองหรือหนองไหลซึมออกมา ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ