คุณแม่ผมอายุ 75 ปี สูงประมาณ 155 ซม น้ำหนัก 52 กก มีบุตร 2 คน สุขภาพแข็งแรง ไม่เคยผ่าตัดนอกจากคลอดบุตรโดยการผ่าตัด มีทานยาความดันโลหิตสูง และยาลดไขมันเป็นประจำทุกวัน

ขอเรียนถามครับ

คุณแม่ผมอายุ 75 ปี สูงประมาณ 155 ซม น้ำหนัก 52 กก มีบุตร 2 คน สุขภาพแข็งแรง ไม่เคยผ่าตัดนอกจากคลอดบุตรโดยการผ่าตัด มีทานยาความดันโลหิตสูง และยาลดไขมันเป็นประจำทุกวัน ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ (ปั่นจักรยาน จ่ายตลาด งานบ้านต่างๆ ได้)

ปกติเป็นคนกินผักผลไม้เยอะอยู่แล้ว ประมาณ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดอาการท้องผูก ประมาณ 10 วัน ถ่ายได้ปริมาณน้อยกว่าที่ถ่ายปกติ มีผายลมบ้างแต่ไม่เยอะเท่าปกติ ทำการสวนทวารโดยใช้ยาสวนที่มีขายตามร้านขายยาทั่วไปมาใช้ พบว่ามีถ่ายออกมาบ้างแต่ไม่เยอะเท่าปกติเช่นเดิม  ถ่ายเหลวบ้าง เป็นก้อนบ้าง

จากนั้นต่อมา 2 สัปดาห์ก่อน ได้พบแพทย์ ไม่ปวดท้อง แต่ทางคุณแม่รู้สึกท้องอืด และทางคุณหมอได้ตรวจทวารหนักโดยใช้นิ้วสอด, ให้ xray และให้ยาสวน(โซเดียมคลอไรด์) มาใช้ หลังจากนั้นได้พบแพทย์สัปดาห์ต่อมา(1 สัปดาห์ที่แล้ว) คุณหมอบอกแจ้งผลฟิลม์ปกติ และให้ยาแคปซูลมะขามมาทาน แต่อาการที่มีอาการถ่ายน้อย ผ่ายลมน้อย ยังมีอยู่ตลอดจนถึงวันนี้ 

วันนี้ 10/8/60 คุณแม่ได้พบแพทย์อีกครั้ง ทางคุณหมอท่านแจ้งว่าถ้าจะตรวจส่องกล้องมีผลข้างเคียง ความเสี่ยง 1/1000 ที่จะลำไส้ฉีกขาด คุณหมอยังตรวจให้ ต้องนัดวันอีกครั้ง และต้องจองห้องที่ รพ. โดยจะต้องมีลูกๆมาพบพร้อมกันด้วย ทำให้ผมรูสึกกังวลกับอาการของคุณแม่มาก

ทางผมมีเรื่องที่่จะรบกวนปรึกดังนี้ครับ 
1 จากอาการดังกล่าว การตรวจส่องกล้องจะมีผลข้างเคียงอันตรายอะไรที่น่ากลัวบ้างครับ
2 ถ้าการตรวจส่องกล้องพบก้อนเนื้อหรือชิ้นเนื้อขนาดเล็กๆที่สันนิษฐานว่าจะเป็นเนื้อร้ายสามารถตัดออกมาได้เลยหรือเปล่าครับ
3 ถ้ามีการตรวจจะต้องอยู่ รพ หรือ ดูอาการอีกประมาณกี่วันครับ 

หากมีข้อสังเกตที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษสามารถแจ้งได้เลยครับ
รบกวนด้วยนะครับ

ด้วยความขอบพระคุณอย่างสูง