ถามแพทย์

  • กลับไปที่ชุมชนถามตอบ

  • ท้องผูก ถ่ายออกไม่หมด เหมือนอุจจาระค้างในลำไส้ มาเป็นเวลา1 เดือน เกิดจากอะไร

  •  brillant
    สมาชิก

    Aug 08, 2021 at 11:43 AM

    ผมมีอาการอุจจาระถ่ายออกไม่หมด เหมือนอุจารระค้างลำไส้ ซึ่งผมก็กินข้าวไปเยอะแยะแล้วก็กินผักไปแต่ผลปรากฎว่าถ่ายแต่กากอาหารที่เป็นของย่อยง่ายๆ ผมได้ไปหาแพทย์ ซึ่งได้ให้ยาถ่ายมาเยอะแยะมากๆ ไปมาแล้ว 3-4ครั้งไม่ผล และก็ได้ไปทำdetox ลำไส้มา1ครั้ง แต่ตอนนี้อาการมันตึงตรงท้องด้านซ้ายล้างหรือถ้าให้เดาน่าจะเกิดจากการที่อุจจาระไปอุดตันในสำไส้ใหญ่รึเปล่าไม่แน่ใจ ซึ่งผมได้กินข้าวแต่เน้นผักมากขึ้นแต่ตอนถ่ายมันมีแต่อุจาระเหลวๆและมีแต่กากผักแต่ที่กินพวกอาหารเช่าเนื้อปลามันแทบจะไม่ออกมา หมอให้ยาถ่าย safex และอีกหลายอันกิน หมดไปแล้ว2ขวดยังไม่ช่วยอะไรเลย อาการมันเหมือนถ่ายแล้วยังมีอุจจาระ ตกค้างพวกที่เป็นแป้งกับเนื้อแต่กากไฟเบอร์บ้างชนิดพวกผักจะออกมาก แต่ผมงดกินเนื้อสัตว์พวกหมู ไก่ แต่ยังกินปลาอยู่ครับ แต่มันก็ยังไม่ออกอยู่ดี คำถามของผมคือ ผมอยากจะให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี่วิเคราะห์ว่ามันจะเกี่ยวกับลำไส้อุดตันรึเปล่าแล้วจะรักษากับแพทย์ที่ไหนที่เป็นแพทย์ เฉพาะทาง และค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่ครับ ถ้ามีคำแนะนำได้โปรดกรุณาช่วยเหลือด้วยครับ ต้องขอขอบพระคุณแพทย์ทุกคน ถ้ามีเวลาได้ตอบคำถามนี้ และผมควรต้องทำยังไงถึงจะแก้อาการแบบนี้ได้ถูกจุด ผมขอกราบขอบพระคุณแพทย์และทุกๆคนที่ให้ความรู้ และขอให้ทุกคนปลอดภัย

    brillant  พญ.นรมน
    แพทย์

    Aug 08, 2021 at 04:35 PM

     สวัสดีค่ะคุณ brillant

    อาการท้องผูก รู้สึกถ่ายออกไม่หมด เหมือนอุจจาระค้างลำไส้ มาเป็นเวลา1 เดือนนั้น อาจจะมีสาเหตุมาจาก สาเหตุการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อยหรือดื่มน้ำน้อยซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด สาเหตุอื่นๆเช่นโรคลำไส้อุดตัน โรคลำไส้แปรปรวนชนิดท้องผูกเด่นอาจมีอาการปวดท้องที่พอถ่ายแล้วจะดีขึ้นร่วมด้วย การได้รับยาบางชนิดเช่น ยารักษาอาการชัก ธาตุเหล็ก หรือมีภาวะไทรอยด์ต่ำ เป็นต้น

    โดยหากเป็นภาวะลำไส้อุดตันนั้น อาการมักจะอืดแน่นท้องมาก คลื่นไส้ อาเจียนเยอะ กินไม่ค่อยได้ ไม่ถ่าย ไม่ผายลม และมักพบในผู้ที่มีประวัติการผ่าตัดที่หน้าท้องมาก่อน แต่ถ้าเป็นในคนสูงอายุอาจมีสาเหตุมาจากเนื้องอกในลำไส้ใหญ่ ซึ่งถ้ามีเนื้อในลำไส้ใหญ่ ก่อนหน้านั้นอาจมีอาการที่บ่งชี้เช่นท้องผูกสลับท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเลือด หรือน้ำหนักผิดปกตินำมาก่อน

    ในเบื้องต้นแนะนำการปรับพฤติกรรมด้วยการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำมากๆ ฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลาและไม่นั่งถ่ายนานจนเกินไป เน้นรับประทานผัก ผลไม้ และธัญพืช หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ร่วมด้วย

    และสังเกตอาการหลังการปรับพฤติกรรมค่ะ ถ้ายังมีอาการถ่ายยาก ท้องผูกมากตลอด ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมซ้ำดูอีกครั้ง ซึ่งแพทย์จะประเมินอาการ ถ้าเป็นท้องผูกที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาหรือการปรับพฤติกรรม หรือมีอาการ/ปัจจัยเสี่ยงต่อการมีเนื้องอก อาจจะมีการส่องกล้องลำไส้ใหญ่เพิ่มเติมได้


  • กลับไปที่ชุมชนถามตอบ