ถามแพทย์

  • หยุดทานยาคุมกำเนิดมา 3 เดือน ประจำเดือนมา 3 เดือนปกติ แต่เดือน พ.ย.ประจำเดือนยังไม่มา ตรวจแล้วไม่ท้อง จะท้องไหม

  •  Vvvv
    สมาชิก
    อยากสอบถามค่ะ ว่าแบบนี้ตั้งครรภ์หรือเปล่าคะ เคยทานยาคุมกำเนิดมา2ปี และตอนนี้ได้พักการกินยาคุมมา 3 เดือนแล้วค่ะ พักมาตั้งแต่รอบเดือนสิงหา กันยา ตุลา โดยสามเดือนที่หยุดกินยาคุมก็ยังมีประจำเดือนมาปกติ โดยรอบเดือนมาที่ 29-30 วันไม่เคยเกินนี้ แต่ของเดือนพฤศจิกายนประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ วันนี้จะเป็นวันที่ 33 ของรอบเดือนแล้ว *หากนับจากวันแรกที่เป็นประจำเดือนของเดือนที่แล้วคือวันที่22/10/65 ไม่รู้สึกปวดท้องเมนหรืออะไรเลยค่ะ แต่เป็นสิวขึ้น ปกติสิวไม่ค่อยขึ้นนะคะ กังวลว่าจะตั้งครรภ์หรือเปล่า เพราะเมื่อวันที่ 8/11/65 ได้มีเพศสัมพันธ์ แต่ว่าสวมถุงยางอนามัยนะคะ และเช็คแล้วว่าถุงไม่ได้แตก และหลั่งนอกด้วยค่ะ *ในแอปที่ใช้บันทึกรอบเดือน บอกว่าวันนั้นเป็นวันที่มีโอกาสตั้งครรภ์น้อย (แอปบอกไข่ตกวันที่5 ค่ะ แต่มีอะไรกันวันที่8 ) เลยได้ทำการซื้อที่ตรวจมาตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว 14 วันดูค่ะ ตรวจกับฉี่รอบแรกของวัน ตรวจเมื่อวานขึ้น1ขีด วันนี้ก็ตรวจซ้ำอีกรอบก็ขึ้น1ขีดค่ะ แต่ประจำเดือนก็ยังไม่มาอยู่ดี จากที่เล่ามา คุณหมอคิดว่ามีเปอร์เซ็นต์ตั้งครรภ์ไหมคะ เครียดมากเลย *มีโรคโลหิตจางประจำตัว แต่ประจำเดือนมาทุกเดือนปกติ แต่น้อยค่ะบางเดือนมา1วัน นานสุดไม่เกิน3และมาไม่เยอะมากค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Isaaa,

                        หากหลังจากที่หยุดทานยาคุมกำเนิด ประจำเดือนได้มา 3 เดือนแล้ว ก็ถือว่ารังไข่ได้กลับมาทำงานเป็นปกติดีแล้ว 

                         และหากประจำเดือนล่าสุดในเดือน ต.ค. มาเป็นปกติดี คือมาวันที่ 22 ต.ค. แต่ในเดือน พ.ย. นี้ ประจำเดือนยังไม่มา แต่ก็ได้ตรวจหาการตั้งครรภ์ดูแล้ว โดยตรวจหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไป 14 วัน แล้วพบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ ดังนั้น ก็ควรรอประจำเดือนต่อไปก่อน ประจำเดือนอาจไม่จำเป็นต้องมาตรงในทุกรอบ โดยอาจมีปัจจัยจากสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้มาช้าได้ เช่น มีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป พักผ่อนน้อย อดนอน นอนดึก อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เป็นต้น