-
หยุดทานยาคุม ได้มีเพศสัมพันธ์ ประจำเดือนไม่มา ตรวจแล้วไม่ท้อง แล้วได้เริ่มทานยาคุมแผงใหม่ จะท้องไหม
-
Jul 31, 2021 at 01:34 PM
กินยาคุมครบแผงวันที่ 11 มิ.ย. 2564 มีประจำเดือนในที่ 15 มิ.ย. 2564 หลังจากมีนี่ประจำเดือนก็หมดวันที่ 20 มิ.ย. 2564และเริ่มหยุดกินยาคุม หลังจากนั้นมีการตกขาวกับในคันในช่องคลอดในวันที่ 21มิ.ย. 2564 เริ่มมีเพศสัมพันธ์กันในวันที่27 มิ.ย.2564 แล้วมีเลือดออกเกิดขึ้น ในระหว่างมีเพศสัมพันธ์นั้นมีการป้องกันโดยการใส่ถุงยาง เช็คแล้วไม่รั่ว แล้วหลังการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 2 วันแรกมีการคันและเลือดออกกระปิดกระปอย ปัจจุบันไม่มีการคันในช่องคลอดแล้ว แต่ประจำเดือนไม่มา เลยซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจในวันที่13 ก.ค. 2564 ออกมา1ขีด แล้วตรวจกลับมากินยาคุมอีกที่วันที่17 ก.ค. 2564 แล้วก็ซื้อที่ตรวจครรภ์อีกมาตรวจวันที่ 23 ก.ค.2564กับ27ก.ค.2564 ผลออกมาก็1ขีด ตรวจหลายรอบแต่เมนก็ยังไม่มา จะมีโอกาสเป็นอะไรบ้างไหมคะJul 31, 2021 at 03:31 PM
สวัสดีค่ะ คุณ Wipawee,
เมื่อหยุดทานยาคุมกำเนิด ฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ก็จะหมดลงไป เมื่อมีเพศสัมพันธ์ ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ แต่หากได้ใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยอยู่ นอกจากนี้ หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์ในวันที่ 13 ก.ค. 23 ก.ค. และ 27 ก.ค. แล้วพบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ ดังนั้น การที่ประจำเดือนยังไม่มา อาจเกิดจากการที่รังไข่ยังไม่กลับมาทำงานเป็นปกติหลังจากที่หยุดทานยาคุมไป อีกทั้ง การที่ได้เริ่มกลับมาทานยาคุมกำเนิดอีกครั้งในวันที่ 17 ก.ค. ก็ย่อมทำให้ไม่มีประจำเดือนมา จนกว่าจะทานยาคุมแผงนี้จนหมดค่ะ ซึ่งก็น่าจะมาในช่วงวันที่ 9-10 ส.ค.ค่ะ
ส่วนอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย รวมถึงอาการคันในช่องคลอด หากหายไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรค่ะ แต่หากยังคงมีคันช่องคลอดเกิดขึ้นอีกบ่อยๆ ร่วมกับมีตกขาวปริมาณมาก อาจเกิดจากการติดเชื้อราในช่องคลอดได้ หรือเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การแพ้หรือระคายเคือง ช่องคลอดที่อับชื้น เป็นต้น ซึ่งหากอาการคันเป็นต่อเนื่อง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ
-
ถามแพทย์
-
หยุดทานยาคุม ได้มีเพศสัมพันธ์ ประจำเดือนไม่มา ตรวจแล้วไม่ท้อง แล้วได้เริ่มทานยาคุมแผงใหม่ จะท้องไหม