ถ่ายเหลวแบบน้ำสีเขียวมา 3 วัน ปวดท้อง เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ Jatuporn Phuttakho,

                    อาการถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำสีเขียว ปวดท้อง ถือเป็นอาการท้องเสียแบบเฉียบพลัน ซึ่งสาเหตุมักจะเกิดจาก   

                   - อาหารเป็นพิษ จากการติดเชื้อที่มาจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรค

                  - ลำไส้อักเสบแบบเฉียบพลัน ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ โดยเชื้อโรคส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ส่วนน้อยเกิดจากการติดเชื้อพยาธิ

                  - จากผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยารักษาโรคเก๊าท์บางชนิด ยาเคมีบำบัด เป็นต้น

                   ดังนั้น หากอาการเป็นมาเพียง 3 วัน และไม่ได้เกิดจากการทานยาใดๆ ก็น่าจะเกิดจากอาหารเป็นพิษหรือลำไส้อักเสบเฉียบพลันได้ ซึ่งนอกจากจะมีถ่ายอุจจาระเป็นน้ำแล้ว ก็จะมีอาการท้องอืด มีลมในท้อง แน่นท้อง เรอ ผายลม ท้องร้องเสียงดัง และอาเจียนร่วมด้วยได้

                  สำหรับการดูแลตนเอง ได้แก่ การดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มาก และดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย แต่ไม่ควรดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ ส่วนอาหาร พยายามเลือกทานเฉพาะอาหารอ่อน อาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของผัด และเนื้อสัตว์ เพราะย่อยยาก หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะจะยิ่งทำให้ถ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ อาจทานคาร์บอนเพื่อช่วยในการดูดซึมสารพิษและเชื้อโรค

                    หากลักษณะของอุจจาระมีมูกปน หรือเป็นมูกปนเลือด หรือมีกลิ่นเหม็นรุนแรง หรือมีอาการปวดบิดหรือปวดเบ่งเวลาถ่าย หรือมีไข้ ก็น่าจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียมากกว่าไวรัส ดังนั้น แนะนำให้ใช้ยาปฎิชีวนะฆ่าเชื้อ เช่น นอร์ฟลอกซาซิน (norfloxacin) ทานขนาด 400 mg ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้งติดต่อกัน 3 วัน ทั้งนี้ต้องไม่แพ้ยาชนิดนี้ด้วย

                    แต่หากยังคงถ่ายอุจจาระบ่อย ปริมาณอุจจาระมาก และไม่สามารถดื่มน้ำชดเชยได้เพียงพอ ซึ่งสังเกตได้จากการมีริมฝีปากแห้ง ผิวแห้ง เบ้าตาลึก หัวใจเต้นเร็ว ปัสสาวะออกน้อย สีเหลืองเข้ม เป็นต้น หรือมีอาการปวดท้องรุนแรง ก็ควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ