ถามแพทย์

  • ท้องเสียได้ 2 อาทิตย์แล้ว กินยาแล้วก็ไม่หาย ยังมีถ่ายเหลวอยู่ ควรทำอย่างไร

  •  Pharadorn
    สมาชิก
    สวัสดีครับ ผมท้องเสียมาได้ซัก 2 อาทิตย์ อุจจาระเหลวทุกครั้ง ท้องมีเสียงดังมาก เหมือนมีลมในท้อง เคยไปคลีนิค หมอบอกในท้องมีแต่ลม ได้ยา ฆ่าเชื้อ ลดกรด และช่วยย่อย หมอจัดยาให้ 3 วัน ตอนนี้ยาหมดแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้นเลยครับ ช่วง1-2 วันนี้ ท้องเสียบ่อยขึ้น วันละ 2-3 รอบ บางครั้งกำลังกินข้าวอยู่ก็ปวดกะทันหัน (กินปุ๊บต้องถ่าย) แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ร่างกายเพลียนะครับ ยังมีแรงปกติดีครับ แต่มันสร้างความรำราญมากกว่าครับ อยากทราบว่าต้องทานยาตัวไหนครับ

    คุณ Pharadorn

    อาการท้องเสียถ่ายเรื้อรัง อาจหาสาเหตุได้คือ

    -โรคติดเชื้อลำไส้ใหญ่ จาก เชื้อ พาราไซตื เชื้อบิด (E. histolica)  เชื้อ อหิวาห์เทียม โรคShigellosis ฯลฯ

    -โรคลำไส้แปรปรวน Irritate bowel syndrome เกิดท้องเสียสลับท้องผูก  ถ่ายจะมีมูกปนออกมา

    -โรคการดูดซึมผิดปกติ  แพ้อาหารพวกนม  ขาด enzyme lactase  อาหารบูดเสียมีสารพิษเจือ  หรือ สารกันบูด

    -โรคไทรอยด์ ฮอร์โมนสูง

    -โรคลำไส้อักเสบใหญ่เรื้อรัง  เช่น โรค Crohn ทำให้มีท้องเสียเรื้อรัง สลับกับ ถ่ายเป็นเลือด ปวดบิดเป็นพักๆ 

    -โรคไตวายเรื้อรัง ทำให้มี เกลือแร่ผิดปกติ พวกโปแตสเซี่ยมเพิ่มขึ้น

    -กินสารที่ดูดซึมได้น้อย พวก lactulose , phosphosulphate 

    -มะเร็งลำไส้  อุจจาระ อาจมีมูกเลือด ท้องเสียสลับท้องผูก

    คำแนะนำ ควรไป รพ เพื่อ นำอุจจาระไปตรวจ หาพยาธิ หาเซลล์ ในอุจจาระ หาระดับเกลือแร่ในเลือด  หรือทำการส่องกล้องตรวจลำไส้ ตามการพิจารณาของแพทย์  ไม่ควรซื้อยาทานเองครับ เพราะกินจากคลินิกจนหมดแล้วไม่ดีขึ้น น่าจะมีปัญหามากกว่าท้องเสียธรรมดาทั่วไป   ควรไปพบแพทย์ดีกว่าครับเพื่อให้การวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง