-
กินยาคุมกำเนิดจนถึงเม็ดแป้งเม็ดที่ 2 แล้วมีเลือดออกมาเยอะ ใช่ประจำเดือนไหม จะท้องไหม
-
Apr 28, 2020 at 09:14 AM
เดือนมีนา ปจด.มาวันที่14 เริ่มกินยาคุม28เม็ด ยาคุมอาร์เดน หลังปจด.หมดคือวันที่21 แล้ววันที่14 ของเดือนเมษา มีตกขาวสีน้ำตาลปนเลือดออกมาแค่เปื้อน กกน. จนถึงเม็ดแป้ง พอกินยาคุมได้ถึงเม็ดแป้งที่2มีเลือดออกมาเยอะ เต็มแผ่นผ้าอนามัย 3-4 ใช่ปจดไหมคะ อยากทราบว่า มีพสพ.ก่อนจะกินเม็ดแป้งเม็ดสุดท้าย จะท้องไหม หรือต้องเว้น7เม็ดสุดท้าย ถึงจะมีพสพ.ได้ และมีพสพ.ต่อคือเม็ดแรกของแผงที่2ได้ไหม หรือต้องเว้นอีก7วันก่อน และปวดฉี่บ่อยเพราะอะไรApr 28, 2020 at 09:27 AM
สวัสดีค่ะ คุณ จิรัชญา ผงพิลา,
เมื่อได้เริ่มทานยาคุมกำเนิดในวันที่ 21 มี.ค. แล้วทานมาจนถึงวันที่ 14 เม.ย. แล้วมีตกขาวสีน้ำตาลปนเลือดออกมา น่าจะเป็นเลือดที่เกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมได้ ซึ่งหากมีปริมาณไม่มาก ก็ไม่ได้อันตรายอะไรค่ะ
ส่วนเลือดที่ออกมาเยอะ ซึ่งเกิดหลังจากที่ทานยาคุมที่เม็ดแป้งเม็ดที่ 2 ก็คือประจำเดือน ซึ่งการที่มีประจำเดือนมา ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ และการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ทานยาเม็ดแป้งนั้น โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่าน้อยอยู่ คือน้อยกว่า 1% ค่ะ
และเมื่อทานยาคุมจนครบ 28 เม็ดแล้ว ก็ให้เริ่มทานยาคุมแผงใหม่ต่อไปได้เลย การออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ก็จะเป็นไปอย่างต่อเนื่องค่ะ และสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่ทานยา
สำหรับอาการปัสสาวะบ่อยนั้น อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การดื่มน้ำมาก การดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ มีกระเพาะปัสสาวะอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรืออาจเกิดจากการมีความเครียด วิตกกังวล เป็นต้น ทั้งนี้ หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะขัด ปัสสาวะเป็นเลือด ปวดท้องน้อย แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ
-
ถามแพทย์
-
กินยาคุมกำเนิดจนถึงเม็ดแป้งเม็ดที่ 2 แล้วมีเลือดออกมาเยอะ ใช่ประจำเดือนไหม จะท้องไหม