ลูกเป็น G6PD ไม่ค่อยทานข้าว กินแต่ขนม จะให้กินยาซางได้ไหม

สวัสดีค่ะ คุณ พิชญะ รัศมีเวียงชัย,

                    ผู้ที่เป็น G6PD Deficiency จะขาดเอนไซม์ที่ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดแดงทำงานได้เป็นปกติ จึงอาจส่งผลให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตกสลายได้ง่าย เมื่อเกิดปัจจัยมากระตุ้น และทำให้เกิดเกิดภาวะโลหิตจางตามมาได้ 

                โดยปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นให้เม็ดเลือดแดงแตก ได้แก่

                 1. การติดเชื้อโรคต่างๆ ทั้งแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส

                  2. จากการทานยาบางชนิด ได้แก่

                         - ยาบางชนิดที่ใช้รักษาโรคมาลาเรียเช่น ไพรมาควีน (Primaquine) ควินิน (quinine)

                        - ยาปฏิชีวนะกลุ่มซัลโฟนาไมด์ (Sulfonamide)

                        - ยารักษาโรคเรื้อน เช่น dapsone

                        - ยารักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ไนโตรฟูแรนโตอิน (Nitrofurantoin) 

                        - ยาลดไข้ยาแก้ปวดบางชนิด เช่น อะเซตานิไลด์ (Acetanilide) รวมถึงยาแอสไพรินหรือพาราเซตามอล (Paracetamol) ก็อาจทำให้เม็ดเลือดแดงแตกได้

                         - ยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น กรดนาลิดิสิก (Nalidixic acid) โคไตรมอกซาโซล (Cotrimoxazole)

                         - ยารักษาโรคมะเร็ง เช่น ดอกโซรูบิซิน (doxorubicin)

                         - วิตามินซี

                         - สารต่างๆเช่น แนฟธาลีน (ลูกเหม็นที่ใช้อบผ้า, กันแมลง)

                 3. อาหารบางชนิด โดยเฉพาะ fava bean หรือถั่วปากอ้า ส่วนอาหารอื่นๆ อาจมีผลบ้าง แต่ไม่มากนัก เช่น ไวน์แดง บลูเบอร์รี่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง การบูร น้ำโซดาบางชนิด (tonic water) เพราะอาจมีควินินผสม เป็นต้น

               เมื่อเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกขึ้น จะมีอาการคือ อ่อนเพลีย เหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว เวียนศีรษะ มีไข้ต่ำๆ ท้องเสีย อาเจียน ผิวหนังซีดจากการเกิดภาวะโลหิตจาง ตัวเหลือง ตาเหลือง ตับหรือม้ามโต ปัสสาวะมีสีเข้ม เป็นต้น

                 สำหรับยาซาง ซึ่งเป็นยาสมุนไพร สำหรับช่วยเจริญอาหารในเด็กนั้น มีส่วนประกอบหลายๆ อย่าง ได้แก่ อะโวคาโดน้ำมะตูม น้ำทับทิม น้ำลูกพรุน น้ำองุ่น น้ำอัลฟัลฟ่า น้ำผึ้ง น้ำขิง น้ำสมอไทย น้ำสมอเทศ  น้ำสมอพิเพก  น้ำมะขามป้อม น้ำพุทราจีน น้ำผลส้มแขก น้ำโกจิเบอร์รี่ น้ำตังกุย ซึ่งไม่น่ามีผลต่อเม็ดเลือดแดงค่ะ ดังนั้น หากต้องการทาน ก็สามารถทานได้ค่ะ โดยให้ทานตามคำแนะนำข้างฉลาก และไม่ควรทานติดต่อกันนานเกินไป 

                    ทั้งนี้ หากน้องทานอาหารได้ปกติ คือกินขนมได้ แสดงว่าน้องไม่ได้มีอาการเบื่ออาหาร หรือทานไม่ได้จากการเป็นโรคหรือมีความผิดปกติอะไร เพียงแต่เด็กเลือกที่จะทานแต่สิ่งที่อร่อย หวานๆ ดังนั้น แม้จะทานยาช่วยเจริญอาหาร ก็อาจไม่ได้ทำให้น้องอยากทานข้าวมากขึ้น ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการงดให้ขนมเด็กทานค่ะ เพราะเมื่อเด็กทานขนมจนอิ่ม ก็ย่อมไม่อยากทานข้าว แต่หากเราหยุดให้ขนม น้องก็ย่อมจะหิวและอยากทานข้าวได้มากขึ้นค่ะ คุณพ่อคุณแม่ ควรสอนให้น้องรู้จักว่าอาหารอะไรมีประโยชน์ อะไรไม่มีประโยชน์ สอนให้รู้ว่าหากทานขนม ก็จะไม่โต ไม่แข็งแรง เจ็บป่วยบ่อยได้ แต่หากทานข้าว ก็จะมีร่างกายที่แข็งแรง ประมาณนี้ค่ะ