บริเวณใบหน้า เป็นวงขาวๆ ตรงแก้ม แล้วลามมาที่หน้าผาก เป็นโรคด่างขาวไหม เป็นมา 2 เดือน

สวัสดีค่ะ คุณ ศิริลักษณ์ เติมธนะศักดิ์,

                     วงขาวๆ ที่บริเวณใบหน้า อาจเกิดจาก

                    1. เกลื้อนลม หรือเรียกอีกชื่อว่าเกลื้อนน้ำนม หรือกลากน้ำนม (Pityriasis Alba) หรือ เป็นโรคผิดปกติทางผิวหนังที่เกิดจากการลดจำนวนของเม็ดสีที่ผิวหนังลงทำให้สีผิวบริเวณนั้นจางลงเป็นวงด่าง มักพบในช่วงวัยรุ่น

                      โรคนี้ ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่พบว่าสัมพันธ์กับอาการผิวแห้งและโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) นอกจากนี้ ปัจจัยบางอย่างอาจกระตุ้นให้เกิดและเห็นรอยด่างชัดมากขึ้นได้ เช่น การโดนแดดบ่อยๆ อากาศแห้ง อาบน้ำอุ่นบ่อยๆ ขาดสารทองแดง เป็นต้น

                     อาการคือ เริ่มแรกจะพบผื่นออกสีชมพูอ่อนๆ เป็นวงๆ ผิวแห้งและตกสะเก็ด รอยผื่นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5-5 เซนติเมตร มีขอบไม่ชัดเจน รูปร่างเป็นวงกลมหรือวงรี ส่วนใหญ่จะขึ้นตามใบหน้า ต้นแขน คอ หัวไหล่ หน้าอก หลัง ไม่ค่อยมีอาการคัน หลังจากการเกิดผื่นผ่านไปหลายสัปดาห์ สีจะค่อยๆ อ่อนลง ซีดจางกว่าสีผิวบริเวณรอบๆ ดูเหมือนด่างขาว ซึ่งรอยโรคจะหายได้เองภายในไม่กี่เดือน แต่บางรายอาจนานเป็นปีได้ 

                  สำหรับการรักษา ไม่มียาสำหรับทาให้หายโดยเฉพาะ มีเพียงแค่การดูแลที่อาจช่วยให้หายเร็วขึ้น เช่น การทามอยส์เชอไรเซอร์บริเวณที่เป็นรอยด่าง เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ไม่แห้ง ลอกเป็นขุยมากขึ้น หากมีอาการคัน อาจาทายาในกลุ่มสเตียรอยด์ แต่ไม่ควรทานต่อเนื่องนานเกิน 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดด ไม่ควรอาบน้ำที่มีอุณหภูมิอุ่นเกินไป และเลือกใช้สบู่ที่อ่อนโยนต่อผิว เป็นต้น

               2. โรคด่างขาว เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีถูกทำลายจากสาเหตุที่ไม่ทราบแน่ชัด พบได้ประมาณ 1% ของประชากร และพบได้ในทุกเพศและวัย โดยทั่วไปมักจะมีสุขภาพปกติดี แต่อาจพบมากขึ้นในโรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคภูมิแพ้ตนเอง โลหิตจางจากการขาดวิตามินบี 12 โรคต่อมหมวกไต และโรคผมร่วง เป็นต้น อาการของโรคด่างขาว จะเกิดอย่างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากมีผิวซีดและค่อยๆ เปลี่ยนไปจนเป็นด่างขาว รูปร่างรอยด่างอาจกลม รี หรือเป็นเส้นยาวก็ได้ มีขนาดตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ กระจายได้ทั่วตัว และมักจะเริ่มเกิดขึ้นบริเวณผิวที่สัมผัสกับแสงแดด เช่น มือ แขน เท้า ใบหน้าและริมฝีปาก เป็นต้น

               3. โรคเกลื้อนจากการติดเชื้อรา ลักษณะคือจะเห็นผิวหนังเป็นขุย หรือเห็นเป็นผื่นดวงๆ แบบแบนราบ ซึ่งอาจเป็นสีขาว ทำให้ดูเหมือนเป็นเป็นด่างขาวได้ แต่ก็อาจมีสีอื่นๆ อีก เช่นชมพู แดง หรือน้ำตาลก็ได้ มักไม่ค่อยคัน

               หากวงขาวๆ มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ ในเบื้องต้น ก็ยังไม่ควรใช้ยาอะไรไปทาก่อนค่ะ และควรใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวต่างๆ ชนิดอ่อนโยนค่ะ