ถามแพทย์

  • ฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน มีเลือดออกกะปริดกะปรอยทุกวัน แล้วหายไป แล้วมีเลือดออกมาก อันตรายไหม

  •  gigi99
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณหมอ พอดีช่วงวันที่ 20/10/2020 ได้ไปฉีดยาคุมกำเนิดมา แบบ 3 เดือน ซึ่งตอนนั้นเป็นประจำเดือนได้วันที่ 3 ค่ะ (เคยโทรไปถา รพ.มา ทาง รพ. แจ้งว่าต้องไปฉีดตอนที่เป็นประจำเดือน) แล้วพอฉีดเสร็จ ประจำเดือนมาน้อยทันทีเลยค่ะ หายจากการเป็นประจำเดือนเลย หลังจากนั้นประมาณ 10 กว่าวัน ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2020 มีเลือดออกแบบกระปริบกระปรอยตลอด มาทุกวันเลยค่ะ เป็นเวลา 2 เดือน จนกระทั้งวันที่ 02/01/2021 ประจำเดือน เลือดออกแบบกระปริบกระปรอยไม่มีแล้ว ไม่มีเลือดเลยเป็นเวลา 3 วัน ถึงวันที่ 04/01/2021 แต่พอมาเมื่อเช้านี้ ประจำเดือนกลับมาอีก และเป็นเยอะมาก มีเลือดออกมาเป็นก้อนเยอะมากๆเลยค่ะ  ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นผลกระทบจากการฉีดยาคุม แบบนี้มีความผิดปกติ หรืออันตรายไหมคะคุณหมอ 

    ขอบคุณมากนะคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ gigi99,

                          หากประจำเดือนมาเป็นวันที่ 3 แล้วได้เริ่มฉีดยาคุมกำเนิดเข็มแรก ยาฉีดก็จะออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีค่ะ สำหรับเลือดประจำเดือนที่มาน้อยลงทันทีหลังฉีด ถือเป็นผลจากยาฉีดได้ ไม่ได้ผิดปกติอะไรค่ะ

                          สำหรับผลข้างเคียงของยาฉีดนั้น มักทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอย หรืออาจทำให้มีประจำเดือนมามาก หรือมาติดต่อกันนานได้ แต่โดยส่วนใหญ่ เมื่อฉีดต่อเนื่องไปซักระยะ ประจำเดือนก็มักจะขาดหายไป

                           ดังนั้น การที่มีเลือดออกกะปริดกะปรอยมา 2 เดือน แล้วหายไป แล้วกลับมีเลือดออกมาปริมาณมากอีก ก็ถือเป็นผลข้างเคียงที่พบจากยาฉีดได้ค่ะ แนะนำควรสังเกตอาการไปก่อน หากเลือดค่อยๆ ออกน้อยลงและหยุดไป ก็ไม่ได้อันตรายอะไร และไม่จำเป็นต้องทำอะไร แต่หากเลือดยังคงออกปริมาณมากต่อเนื่องนานเกินสัปดาห์ แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาให้เลือดหยุดไหล เพื่อป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจางตามมาค่ะ โดยแพทย์อาจให้ยาฮอร์โมนเอสโตรเจนเสริม หรืออาจให้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมทานร่วมไปด้วยซักระยะหนึ่งค่ะ