ถามแพทย์

  • ระหว่างรับประทานยาคุมกำเนิด มีเลือดออกจากช่องคลอดและปวดท้องน้อย จะเป็นอะไรไหม

  •  มอ' มิ่ง.
    สมาชิก
    ทานยาคุมประจำแบบแผง21เม็ดค่ะ ทานปกติเลยประจำเดือนมาตรงทุกเดือนคือหลังจากทานยาหมด4วันประจำเดือนจะมาเป็นแบบนี้ทุกเดือนค่ะ จนมาเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทานหมดไปวันที่17มี.ค.62 หลังจากนั้น4วันประจำเดือนก็มาค่ะมาวันที่21มี.ค.62 มาได้2-3วันก็หายไปแบบเลือดสีดำเข้มๆติดที่ผ้าอนามัย (เป็นคนดื่มน้ำน้อยและสูบบุหรี่ด้วยค่ะ) ต่อมาเริ่มทานแผงใหม่วันที่25มี.ค.62 ทานตรงเวลาตามปกติเลยค่ะแล้วอยู่ดีๆเมื่อวันที่1เม.ย.62 มีอาการปวดท้องน้อยหน่วงๆมากๆพอไปเข้าห้องน้ำเช็ดดูก็มีเลือดสีน้ำตาลติดทิชชู่มาค่ะ พอมาวันนี้วันที่2เม.ย.62 ปวดท้องน้อยมากมีเลือดสีแดงไหลออกมาค่ะ หนูอยากทราบว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แล้วก็มีการเสี่ยงหรืออันตรายอะไรหรือป่าว หนูค่อยข้างเครียดช่วยติบคำถามของหนูด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ🙏
    มอ' มิ่ง.  พญ.นรมน
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณ มอ' มิ่ง.

    เลือดที่ออกมาระหว่างที่รับประทานยาคุมนั้นอาจแบ่งออกเป็น

    1.เลือดที่ออกกระปริดกระปรอยแค่ติดกางเกงใน อาจเป็นผลมาจากยาคุมกำเนิด มักเกิดได้ในช่วงแรกของการรับประทานยา เกิดจากระดับฮอร์โมนที่ไม่สมดุล มักหายไปได้เองภายในไม่กี่วัน และไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆเช่นปวดหน่วงท้องน้อยมาก

    2.เลือดที่ออกมามากจนต้องใช้ผ้าอนามัย อันนี้น่าจะผิดปกติจากสาเหตุอื่นๆที่ไม่ใช่ผลจากยาคุมกำเนิด เช่น ช่องคลอด/ปากมดลูก/มดลูกติดเชื้อ มีก้อนเนื้องอกที่ปากมดลูก มะเร็งปากมดลูก ภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์เช่นแท้ง หรือท้องนอกมดลูก มีเนื้องอกมดลูก เป็นต้น

    หากรับประทานยาคุมกำเนิดแบบแผงอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีการขาดยาระหว่างเดือน และเริ่มรับประทานแผงใหม่ในช่วง 5 วันแรกของการมีประจำเดือน โอกาสตั้งครรภ์มีน้อยค่ะ 

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนมากินเพิ่มเอง งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน  และแนะนำว่าถ้าเลือดออกมากร่วมกับปวดหน่วงท้องน้อยควรรีบไปพบสูตินรีแพทย์ เพราะอาจมีสาเหตุที่อันตรายอยู่ได้หลายอย่างดังที่กล่าวไป แพทย์อาจต้องตรวจภายในและทำอัลตราซาวน์ทางหน้าท้องเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุค่ะ