ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมาแล้ว แสดงว่าไม่ท้องใช่หรือไม่ แต่มีอาการอ่อนเพลีย ปวดหัว คัดเต้านม หงุดหงิดง่าย

  •  Prapas
    สมาชิก
    คุณหมอคะอยากทราบว่าถ้าประจำเดือนมาแล้วแปลว่าไม่ท้อง 100% ไหมคะ เพราะหนูเคยอ่านเจอในเน็ตว่าบางคนประจำเดือนมา แต่ปรากฏว่าท้อง... คือหนูกินยาคุมต่อเนื่อง 9 เดือนกว่า (yasmin 6 เดือน yaz 3 เดือน) เม็ดแรกที่กินของyaz แผงก่อนคือ 30 ก.ย. มีพสพ. 2 ครั้งวันที่ 6 ต.ค.หลั่งนอก 14 ต.ค. สอดใส่ไม่ถึง5 นาทีไม่หลั่งแล้วใส่ถุงยางจนหลั่งเสร็จ ตรวจการตั้งครรภ์ ตอนเช้ามืด 27 เป็นลบ ปจด.มา 27 ต.ค. สายๆ มาปริมาณปกติสีแดงสด 4 วัน แล้วก็กินยาแผงใหม่ปกติวันที่ 28 ไม่มีพสพ.อีก จนเมื่อ 3 วันก่อนจนถึงวันนี้ รู้สึกอ่อนเพลียมาก ปวดหัว ตัวอุ่นๆ คัดตึงเต้านม ชุดชั้นในแน่นขึ้น หงุดหงิดง่าย ก่อนหน้าที่กินยาคุมมา ไม่เคยมีอาการปแบบนี้เลยค่ะ เลยอยากทราบว่าเกิดจากการตั้งครรภ์หรือไม่คะ หรือเป็นเพราะเหตุผลอื่น ขอบคุณค่ะ

     สวัสดีค่ะ คุณ Prapas,

                        หากได้ทานยาคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง คือทานทุกวัน ไม่มีวันที่ลืมทาน ทานยาในเวลาใกล้เคียงกันของแต่ละวัน ไม่มีอาเจียนหือท้องเสียร่วม ไม่ได้ทานยาอื่นบางชนิดร่วม ยาคุมกำเนิดก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% ดังนั้นโอกาสที่จะตั้งครรภ์จึงถือว่าน้อยมาก

                        นอกจากนี้ หากประจำเดือนได้มาแล้ว โดยเริ่มมาในช่วงการทานยาเม็ดที่ไม่มีฮอร์โมน โดยหากเป็นยี่ห้อ yaz คือประจำเดือนเริ่มมาในช่วงการทานเม็ดที่ 25-28 ก็ถือว่าเป็นการมาของประจำเดือนที่ปกตดี และแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นแต่อย่างใดค่ะ

                         ดังนั้น อาการอ่อนเพลีย ปวดหัว คัดเต้านม หงุดหงิดง่าย ที่เกิดตามหลังการมีประจำเดือนมา จึงไม่ใช่อาการของการตั้งครรภ์ แต่อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่หลับ หรือเกิดจากการทานยา อาหารเสริม สมุนไพรบางชนิด เป็นต้น 

                          สำหรับข้อมูลที่ว่า บางคนมีประจำเดือนมา แต่ตรวจพบว่าท้องนั้น น่าจะเกิดจากการที่เลือดที่ออกมก่อนกน้านั้น ไม่ใช่ประจำเดือนจริงๆ เช่น หากเลือดเกิดออกในช่วงระหว่างที่ทานยาเม็ดที่เป็นฮอร์โมนอยู่ และมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย เลือดดังกล่าวก็ถือว่าไม่ใช่ประจำเดือน โดยอาจเป็นเลือดที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ได้ เป็นต้น