ถามแพทย์

  • มีก้อนที่คอด้านขวา คลำแล้วไม่เจ็บ แต่รู้สึกหายใจลำบาก เหมือนจะกรนตลอดเวลา ทำอย่างไร

  •  Sirunnyika
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ มีเรื่องอยากจะสอบถามค่ะ คือเลิกทานยาคุมได้ประมาณ 4แล้วค่ะ เดือนแรกประจำเดือนมาปกติค่ะ 5วัน พอเข้าเดือนที่2 ประจำเดือนมากระปิดกระปอยทุกวันเลยค่ะเข้า 2เดือนแล้ว ก่อนหน้านั้นที่หยุดทานยาได้ 1เดือนไปพบแพทย์มาแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าไข่ไม่ตกค่ะ ไข่ในมดลูกมีหลายใบมากเพราะทายาคุมมาเป็นระยะเวลานาน หรือเป็นเพราะเหตุนี้ค่ะ ที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่หยุด

    สวัสดีค่ะ คุณ Sirunnyika,

                    หลังจากหยุดทานยาคุมกำเนิด ประจำเดือนได้มาเป็นปกติแล้ว แสดงว่ารังไข่ก็น่าจะกลับมาทำงานเป็นปกติแล้ว แต่หลังจากนั้น หากมีเลือดออกกะปริดกะปรอยนาน 2 เดือน อาจเกิดจาก

                      1. มีการตั้งครรภ์แล้วมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น แท้งคุกคาม เป็นต้น

                      2. มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                       3. มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                       4. มีโรคในระบบอื่นๆ เช่น มีภาวะเกร็ดเลือดต่ำ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นต้น แต่ก็จะต้องมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย

                       5. ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนอื่นๆ เช่น  ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น    

                      6. การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                       หากหลังจากที่หยุดทานยาคุมกำเนิด ได้มีเพศสัมพันธ์ แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วยค่ะ หากตรวจไม่พบ หรือไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ และเลือดยังคงไม่หยุดไหล ก็ควรกลับไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจอีกครั้ง และรักษาให้เลือดหยุดไหล ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะจะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางตามมาได้ค่ะ