ถามแพทย์

  • อายุ 28 ปี ทานยาคุมชนิด 21 เม็ด ในช่วงเว้นระยะ ได้มีประจำเดือนมา หลังจากนั้นหยุดทานยา ผ่านไป 7 วัน มีเลือดออกมา เกิดจากอะไร

  •  โอเค โอเค
    สมาชิก

    อายุ 28 คบกับแฟนมา 7 ปีทานยาคุมตลอด ประจำเดือนมาปกติทุกเดือน เดือนละ 2-3 วันค่ะ แต่ช่วงกลางปีมีทานยาแบบเว้นเดือน เพราะมีแผนจะมีลูกในอีก 2 ปีค่ะ เลยเว้นเพราะกลัวติดลูกยาก 

    แต่เดือนนี้ทานยาหมด 21 เม็ดประจำเดือนมาวันที่ 5 หลังจากทานยาหมด และไม่ได้ต่อยาแผงใหม่ ประจำเดือนมา 3 วันเหมือนทุกๆเดือน หลังหมดประจำเดือน 2 วันได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบหลั่งในค่ะ แต่พอผ่านมา 7 วันกลับมีประจำเดือนอีกแบบไม่รู้ตัว ไม่มีอาการปวดท้องใดๆ วันแรกมาแบบสีเลือดหมูค่ะ วันที่ 2 สีน้ำตาลเข้ม อยากทราบว่าทำไมประจำเดือนถึงมา 2 รอบคะ กังวลมาก สาเหตุเกิดจากอะไรคะอันตรายไหมคะ 

    สวัสดีค่ะ คุณ โอเค โอเค,

                           หากทานยาคุมกำเนิดครบ 21 เม็ด และเมื่อเว้นระยะไป 5 วัน ได้มีประจำเดือนมา ก็ถือว่าปกติดี แล้วเมื่อเว้นครบ 7 วัน หากไม่ได้ทานยาคุมกำเนิดต่อ ฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ย่อมหมดลงไป ดังนั้น หากมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้

                          ส่วนหลังจากนั้นอีก 7 วัน การที่มีเลือดออกมาอีก อาจเกิดจากการทำงานผลิตฮอร์โมนของรังไข่ ที่ยังไม่กลับมาเป็นปกติ จึงอาจทำให้มีเลือดออกมาได้ ทั้งนี้ หากเลือดออกนาน 2 วันแล้วหยุดไป ก็ไม่ได้อันตรายอะไรค่ะ แนะนำควรสังเกตอาการต่อไปก่อน แต่หากหลังจากนั้น หากยังคงมีเลือดออกมาบ่อยๆอีก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ เช่น มีมดลูกอักเสบ เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนา มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                         ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์ หากต้องการที่จะตั้งครรภ์ ก็ให้มีเพศสัมพันธ์ต่อไปอย่างสม่ำเสมอ การตั้งครรภ์ก็จะเกิดขึ้นได้ในที่สุดค่ะ