มีเพศสัมพันธ์ 20 มี.ค. กินยาคุมฉุกเฉิน หลังจากนั้น ประจำเดือนยังไม่มา แต่ตรวจแล้วไม่ท้อง เป็นเพราะมีน้ำหนักตัวเยอะไหม

 สวัสดีค่ะ คุณ Ginggg,

                     การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 20 มี.ค. หากได้ทานยาคุมฉุกเฉินไป ภายในไม่เกิน 12 ชั่วโมงหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยอยู่ค่ะ

                     และในวันที่ 8 เม.ย. รวมถึง 14 พ.ค. หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์ดูแล้ว พบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ ดังนั้น การที่ประจำเดือนยังไม่มา จึงอาจเกิดจากผลของยาคุมฉุกเฉิน ที่ไปมีผลต่อการทำงานของรังไข่ ทำให้ประจำเดือนมาช้าได้ หรืออาจมีปัจจัยอื่นๆ ร่วม เช่น การมีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป พักผ่อนน้อย อดนอน นอนดึก อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เป็นต้น

                    ในส่วนของน้ำหนักตัวที่มากนั้น หากมีน้ำหนักมากมานานแล้ว ไมไ่ด้เพิ่งมาเพิ่มขึ้นเร็วในช่วงหลังๆ นี้ ก็ไม่น่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนในครั้งนี้ยังไม่มาค่ะ 

                    ส่วนการสอดยาเพื่อรักษาเชื้อรา ไม่น่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาค่ะ 

                    แนะนำควรรอดูประจำเดือนต่อไปก่อน หากไม่มานานเกิน 3 เดือน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ ต่อไป เช่น มีภาวะถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นต้น

                    สำหรับเรื่องน้ำหนักตัว หากหนัก 85 กิโลกรัม ก็ถือว่ามีโรคอ้วน ที่น่าจะอยู่ในโรคอ้วนระดับ 2-3 ซึ่งแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านโภชนการ เพื่อลดน้ำหนักตัวลง ไม่ควรปล่อยให้มีน้ำหนักตัวมากในระดับนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง ข้อเข่าเสื่อม กระดูกสันหลังเสื่อม เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่ควรลดน้ำหนักโดยการซื้อยามาทานเองค่ะ เพราะอาจอันตรายกว่าการไม่ลดน้ำหนักค่ะ