ประจำเดือนมา 10-16 ม.ค. แล้วมีเพศสัมพันธ์หลายครั้ง ต่อมาประจำเดือนไม่มา แต่ตรวจแล้วไม่ท้อง

สวัสดีค่ะ คุณ Bunni,

                    การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยป้องกันนั้น ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% อย่างไรก็ตาม หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์ดูแล้ว โดยตรวจหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วเกิน 2 สัปดาห์ แล้วพบขึ้นเพียง 1 ขีด ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ ดังนั้น การที่ประจำเดือนยังไม่มา ก็จะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น มีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป พักผ่อนน้อย อดนอน นอนดึก อดอาหาร มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เป็นต้น

                     แนะนำควรรอประจำเดือนต่อไปก่อน หากไม่มานานเกิน 3 เดือน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ เช่น  มีภาวะถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ มีพังผืดในมดลูก เป็นต้น ส่วนอาการปวดท้องน้อย หากเป็นมากขึ้น ร่วมกับมีตกขาวผิดปกติ อาจเกิดจากการมีมดลูกอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาได้ด้วย แต่หากปวดไม่มาก ไม่มีตกขาวที่ผิดปกติ ก็อาจสังเกตอาการไปก่อนค่ะ 

                     แต่หากการตรวจหาการตั้งครรภ์นั้น ยังไม่เกิน 2 สัปดาห์นับจากที่ได้มีเพศสัมพันธ์ไป ก็ควรตรวจซ้ำดูเมื่อครบ 2 สัปดาห์ค่ะ