ถามแพทย์

  • ประจำเดือนไม่มาตั้งแต่ ก.ย.64 มีเพศสัมพันธ์ 31 ธ.ค. ไปตรวจหาการตั้งครรภ์เมื่อวาน หมอให้รอตรวจซ้ำ ตกลงตั้งครรภ์ไหม

  •  bnsnattapol
    สมาชิก

    แฟนผมประจำเดือนไม่มาตั้งแต่กันยายน 64 เรามีไรกันแบบป่องกันเมื่อวันที่ 31 ธันวา 64 เมื่อ21มีนา 65 เขาไปตรวจ หมอบอกว่าพบเชื้อตั้งครรภ์เล็กน้อย อีก2สัปดาห์ให้ตรวจอรกครั้ง ผมเลยสงสัยว่า เค้ามีสิทธิ์ตั้งครรภ์หรือไม่ ทั้งๆที่เรามีไรกันแบบป้องกันแล้วผ่านมา3เดือนกว่าจะ4เดือนแล้ว

    bnsnattapol  bnsnattapol
    สมาชิก

    เขาเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้วด้วยครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ bnsnattapol,

                         การใช้ถุงยางอนามัยนั้น ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้น ก็ย่อมมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม หากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายเมื่อ 31 ธ.ค. 64 หากตรวจหาการตั้งครรภ์จากปัสสาวะในตอนนี้ ก็น่าจะต้องตรวจพบได้ชัดเจน ดังนั้น หากผลตรวจไม่ชัดเจน แนะนำควรตรวจเลือดดูค่าฮอรโมน HCG ก็จะแม่นยำกว่า หากตรวจแล้วค่าฮอร์โมนไม่ขึ้น ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์ค่ะ 

                        ส่วนการที่ประจำเดือนไม่มา ตั้งแต่เดือน ก.ย.64 อาจมีสาเหตุจาก

                       - มีโรคอ้วน เนื่องจากคนอ้วนมีเซลล์ไขมันจำนวนมาก ซึ่งเซลล์ไขมันสามารถสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ในปริมาณเล็กน้อย เมื่อมีปริมาณมากเกิน จึงกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนเพศที่ปกติได้

                       - การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีภาวะมีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) โดยผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะมีรูปร่างอ้วน ผิวมัน มีสิว ขนดกมากกว่าผู้หญิงทั่วไป

                        - มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ

                        - มีพังผืดในโพรงมดลูก จากการเคยมีมดลูกอักเสบหรือเคยขูดมดลูก 

                        - มีเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน มีน้ำนมไหล เป็นต้น

                        นอกจากนี้ หากมีการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ อยู่ ก็อาจเป็นผลของฮอร์โมนได้

                        ดังนั้น หากผลการตรวจเลือด หรือการตรวจซ้ำของแพทย์ ไม่พบว่ามีการตั้งครรภ์ ก็ควรให้แพทย์ตรวจหาสาเหตุของการขาดประจำเดือนนานต่อไปค่ะ 

                        สำหรับปัจจัย ที่อาจทำให้การตรวจหาการตั้งครรภืจากปัสสาวะพบขึ้น 2 ขีด นอกจากการตั้งครรภ์แล้ว อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น 

                        - เป็นรอยระเหยของปัสสาวะ โดยปกติควรอ่านผลภายใน 5 นาทีหลังทดสอบ การปล่อยทิ้งไว้นานเกินแล้วนำมาอ่านผล อาจเห็นเป็น 2 ขีดได้ ซึ่งเกิดจากปัสสาวะระเหยออกไปและทิ้งรอยเอาไว้

                         - มีโรคบางอย่างอยู่ เช่น เนื้องอกหรือมะเร็งรังไข่ ชนิดที่ผลิตฮอร์โมน HCG ได้

                         - มีเนื้องอกของต่อมใต้สมอง หรือภายในช่องทรวงอก ชนิดที่ผลิตฮอร์โมน HCG ได้ 

                        - การใช้ยาบางชนิด เช่น diazepam, alprazolam, clozapine, chlopromazine, phenobarbital, bromocriptine, flurosemide, methadone เป็นต้น