ถามแพทย์

  • หยุดทานยาคุม 6 เดือน ประจำเดือนมาทุกเดือน แต่เดือน เม.ย.จนถึงตอนนี้ ยังไม่มา ตรวจแล้วไม่ท้อง

  •  Siham
    สมาชิก
    กินยาคุมระยะเวลา 2ปีครึ่งไม่เคยขาด ตอนนี้เลิกกินยาคุมมาได้ 6เดือนกว่าๆ ประจำเดือนมาทุกเดือนมีเลทบ้าง เดือนเมษาประจำเดือนไม่มาทั้งเดือนแต่มีอาการตกขาวคล้ายไข่ขาว คัดเต้านม ปวดท้องคล้ายมีประจำเดือน ตรวจการตั้งครรภ์วันที่ 30เมษากับ 9พฤษภาผลเป็นลบทั้งสองครั้ง ประจำเดือนล่าสุดมาวันที่ 15มีนาคม คัดเต้านมตั้งแต่วันที่ 22เมษาจนถึงวันที่ 9พฤษภาก็ยังไม่หาย ปัสสาวะบ่อยขึ้นก่อนตรวจการตั้งครรภ์อีกค่ะ มีเพศสัมพันธ์หลังจากประจำเดือนครั้งล่าสุด 3ครั้ง หลั่งนอก มีเพศสัมพันธ์ล่าสุดวันที่ 15เมษา ตรวจการตั้งครรภ์วันที่ 30เมษากับวันที่ 9พฤษภา ผลเป็นลบทั้งสองครั้ง(ตรวจแบบปากกา) มีสาเหตุอะไรบ้างทำให้ประจำเดือนไม่มา แล้วมีโอกาสตั้งครรภ์ไหมค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Siham,

                         หากหยุดทานยาคุมกำเนิดไป 6 เดือน แล้วได้มีประจำเดือนมาทุกเดือนมาหลายเดือนแล้ว ก็ถือว่าปกติดี แต่ในเดือน เม.ย. หากไม่มีประจำเดือนมา แต่หากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์แล้ว พบขึ้นเพียง 1 ขีด อีกทั้งเป็นการตรวจหาการตั้งครรภ์หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายเกิน 2 สัปดาห์ไปแล้ว ก็แสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นค่ะ ดังนั้น การที่ประจำเดือนยังไม่มา จึงอาจเกิดจากสาเหตุ เช่น

                          - การมีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป พักผ่อนน้อย อดนอน นอนดึก

                          - มีน้ำหนักลด

                          -  มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว

                          -  มีการเจ็บป่วยไม่สบาย

                           แนะนำควรรอดูประจำเดือนต่อไปก่อน หากยังคงไม่มา ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ ต่อไป เช่น 

                          -  การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ เช่น มีภาวะมีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) 

                          -  มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนเป็นพิษ หรือไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ 

                          -  มีพังผืดในโพรงมดลูก จากการเคยมีมดลูกอักเสบหรือเคยขูดมดลูก 

                          - มีเนื้องอกของต่อมใต้สมอง แต่จะมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ มองเห็นภาพซ้อน มีน้ำนมไหล เป็นต้น