ถามแพทย์

  • ประจำเดือนมา 8 ก.พ. แล้ววันที่ 1 มี.ค.มีเลือดออกมาเยอะ แต่หลังจากนั้น มีแค่เล็กน้อย ใช่ประจำเดือนไหม

  •  ssss.
    สมาชิก
    เมื่อเดือนกุมภาเป็นประจำเดือนวันที่8ค่ะ ปกติแล้วเป็นคนที่ประมาณ30-35วันประจำเดือนจะมาในอีกเดือนถัดไป แต่เมื่อวันที่1มีนา มีเลือดออกมาเลอะเลยค่ะ ไม่ได้มากับตกขาวมาเป็นประจำเดือนเลย รู้สึกว่าประจำเดือนมาเร็วกว่าปกติ จากนั้นก็ใส่ผ้าอนามัยแล้วพอเวลาผ่านไปก็ไม่มีอะไรออกมาอีกเลยค่ะ ถ้ามีก็แค่1-2หยดสีค่อนข้างเข้ม จากนั้นก็ใส่ผ้าอนาภัยมา2-3วันค่ะ แต่ก็รู้สึกว่ามันแทบจะไม่มีอะไรไหล่ออกมาเลยเลยเลือกไม่ใส่และก็ได้ข้อสรุปว่า1-2หยดที่ไหล่มันคือเลือดที่ปนกับตกขาว แต่ครั้งแรกที่มามันเป็นเลือดสีแดงเลยค่ะ และปัจจุบันนี้เป็นเวลาประมาณ35วันแล้ว ประจำเดือนก็ยังไม่มาค่ะ อยากทราบว่าที่มาเมื่อวันที่1คือประจำเดือนรึเปล่าคะ หรือว่าเดือนมีนาจะต้องรอให้ประจำเดือนมาอีกครั้ง หรือว่าสิ่งที่ออกมาไม่ใช่ประจำเดือนคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ ssss.

                           หากประจำเดือนมาวันที่ 8 ก.พ. แล้ววันที่ 1 มี.ค. ได้มีเลือดออกมา เท่ากับมีระยะห่างจากรอบประจำเดือนก่อนที่ 20 วัน อาจถือเป็นระยะห่างของรอบประจำเดือนที่ปกติได้ (ระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนที่ปกติ คือ 21-35 วัน) อย่าไรก็ตาม หากเลือดออกเพียง 1 วันแล้วหายไป ซึ่งไม่ใช่ลักษณะของประจำเดือนปกติที่เคยมา เลือดที่ออกก็อาจไม่ใช่ประจำเดือนได้ 

                          ในเบื้องต้น หากที่ผ่านมา ได้เคยมีเพศสัมพันธ์ แนะนำควรลองตรวจหาการตั้งครรภ์ดูด้วย เพราะอาจเป็นเลือดที่เกิดจากผลข้างเคียงของการตั้งครรภ์ก็ได้ แต่หากตรวจไม่พบ หรือไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน เลือดดังกล่าว ก็อาจเป็น

                           - ประจำเดือน ที่มาน้อยกว่าปกติ โดยอาจมีสาเหตุต่างๆ เช่น การมีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป มีน้ำหนักลด มีภาวะโลหิตจาง เป็นต้น

                           -  มีการอักเสบติดเชื้อในโพรงมดลูก แต่มักมีอาการปวดท้องน้อยและตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย 

                           -  มีโรคที่มดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มีติ่งเนื้อในโพรงมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น แต่ก็จะต้องมีเลือดผิดปกติออกมาอีกเรื่อยๆ 

                           -  มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ 

                            - ผลจากการใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาฉีดคุมกำเนิด ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น    

                           - การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ

                           ดังนั้น หากไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ อาจถือเป็นประจำเดือนที่มาน้อยผิดปกติไปก่อน และให้สังเกตประจำเดือนในรอบต่อๆ ไปก่อน ว่าจะมาเป็นปกติหรือไม่ค่ะ หากหลังจากนี้ ประจำเดือนยังคงมาผิดปกติอีก ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ