ถามแพทย์

  • กินยาคุมจนถึงเม็ดสีขาวเม็ดที่ 3 แล้วมีประจำเดือนมา จึงเริ่มทานยาแผงใหม่ต่อ กินถึงเม็ดสีขาวแล้วมีเลือดออก คืออะไร

  •  Chaauk Aukareema Pueng-iam
    สมาชิก
    กินยาคุมมาแล้วแต่แผงแรกกินจนถึงเม็ดสีขาวเม็ดที่สามเมนก็มาเลยคะก็เลยไม่กินต่อไปต่อแผงใหม่เลยคือแผงที่สองคะแต่แผงแรกไม่เคยมีอะไรกับแฟนนะคะ ตอนนี้กินแผงที่สองถึงเม็ดสีขาวเม็ดที่2แล้วคะ แต่เวลากินจะกินเวลา3ทุ่ม แต่บางครั้งกินไม่ตรงเวลา เช่น นึกได้ตอน4ทุ่มก็กินเลยทันทีคะ แล้ว มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกคือวันที่ต้องกินยาคุมเม็ดที่สามคือเม็ดสีขาวคะใส่ถุงยางนะคะแต่อยู่ๆเลือดก็ไหลออกมา ก็เลยไม่ทำต่อแบบว่าพอเลือดออกก็หยุดทำเลย อยากทราบว่า เราจะท้องไหมคะ ? แล้วที่เลือดออกเป็นเพราะอะไร ? แล้วยาคุมช่วยไหมคะถ้ากินไม่ค่อยตรงเวลา?

    สวัสดีค่ะ คุณ Chaauk Aukareema Pueng-iam,

                        หากเป็นยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด เมื่อทานจนถึงเม็ดแป้ง ซึ่งมักจะเป็นเม็ดยาสีขาว ก็ย่อมจะมีประจำเดือนมา ดังนั้น เมื่อทานจนถึงเม็ดยาสีขาวเม็ดที่ 3 แล้วมีประจำเดือนมา ก็ถือว่าปกติดีค่ะ และแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น และโดยปกติแล้ว ควรทานต่อจนครบ 28 เม็ดก่อนที่จะเริ่มต้นทานแผงใหม่ต่อไปค่ะ ไม่ควรเริ่มทานแผงใหม่ต่อทันทีที่ประจำเดือนมา เพราะจะทำให้ระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนสั้นขึ้นและอาจทำให้ประจำเดือนขาดหายไปได้

                       และเมื่อเริ่มทานแผงใหม่ไปแล้ว และได้ทานจนถึงเม็ดแป้งหรือเม็ดสีขาวเม็ดที่ 3 แล้วมีเลือดไหลมา เลือดดังกล่าวก็คือประจำเดือนค่ะ และแสดงว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น

                       หลังจากนี้ ก็ให้ทานยาคุมต่อไปจนครบ 28 เม็ดค่ะ เมื่อครบแล้วก็ให้เริ่มทานแผงใหม่ต่อไป

                        การทานยาคุมกำเนิดนั้น หากทานได้อย่างถูกต้อง คือทานทุกวัน ไม่มีวันที่ลืมทาน ทานยาในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกันของแต่ละวัน ไม่มีอาเจียนหรือท้องเสียหลังจากทานยา ไม่ได้ทานยาอื่นบางชนิดร่วม ยาคุมก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% ค่ะ ส่วนการทานยาในเวลาที่ต่างกันประมาณ 1 ั่วโมงในแต่ละวัน ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ลดลงค่ะ