ถามแพทย์

  • ปวดขามากหลังจากเข้ารับการผ่าตัดกระดูกทับเส้น อยากทราบสาเหตุ

  •  Ed Es H
    สมาชิก

    สวัสดีครับคุณหมอ

    พ่อของผม อายุุ67ปี ได้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการกระดูกทับเส้นประสาทที่บริเวณเอว

    ช่วงนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์ พ่อไม่มีอาการปวดที่ขาเลย แต่ภายหลังกลับมาพักที่บ้าน กลับมีอาการปวดขามาก เริ่มจากขาขวา แล้วมาปวดขาซ้าย บางวันปวดมากจนนอนไม่หลับ หน้าซีด

    จึงขอเรียนถามคุณหมอว่า 1)อาการปวดเหล่านี้ เป็นภาวะปกติภายหลังการผ่าตัดกระดูกทับเส้นประสาทหรือเปล่าครับ? 2)แล้วโดยทั่วไปอาการปวดจะหายไปภายในระยะเวลาสักเท่าไรครับ?

    ขอบคุณคุณหมอทุกท่านครับ

    สวัสดีค่ะคุณ Ed Es H  

       อาการปวดขาเกิดได้จากหลายสาเหตุมากมาย เช่น

    • การห้อเลือด การบาดเจ็บอาจทำให้มีเลือดออกภายในเนื้อเยื่อและข้อต่อ จึงทำให้เกิดอาการบวมและเจ็บปวดได้

    • ตะคริว ตะคริวมีลักษณะเป็นก้อนแข็งใต้ผิวหนังและอาจมีอาการบวมแดงร่วมด้วย มักเกิดขึ้นเองโดยเฉียบพลัน โดยมีสาเหตุจากการขาดน้ำในร่างกาย กล้ามเนื้อตึงหรืออ่อนแรงจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นเวลานานหรือหนักเกินไป การใช้ยาบางชนิด

    • ปวดข้อ อาจเกิดขึ้นจากการบาดเจ็บหรือโรคประจำตัว เช่น โรคข้ออักเสบ และโรคเก๊าท์

    • ปวดกล้ามเนื้อ มักเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมากเกินไป เช่น การเดินหรือยืนนาน ๆ การออกกำลังกายอย่างหนักหรือปวดกล้ามเนื้อจากการติดเชื้อในร่างกาย เป็นต้น

    • เอ็นอักเสบ คือการอักเสบของเส้นเอ็น ซึ่งกระทบข้อต่อบริเวณใกล้เคียง โดยมักเกิดขึ้นที่เอ็นร้อยหวาย หรือกระดูกส้นเท้า

    • ลิ่มเลือด การเกิดลิ่มเลือดอาจส่งผลให้หลอดเลือดตีบหรืออุดตัน

    • ปวดหลังบริเวณเอว ทำให้เกิดอาการปวดบริเวณสะโพกร้าวลงขา หรือโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท กล้ามเนื้อตึง โรคข้ออักเสบ หรือการบาดเจ็บต่าง ๆ

    • โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ เกิดขึ้นจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ ผู้ป่วยจึงรู้สึกปวดเนื่องจากกล้ามเนื้อขาดออกซิเจน

    • โรคเส้นประสาท มักเกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทส่วนปลาย ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณต้นขาจากการที่เส้นประสาทถูกกดทับ เป็นต้น

      ในกรณีนี้ เกิดขึ้นภายหลังการผ่าตัด ก็อาจเป็นอาการที่เกี่ยวข้องจากการผ่าตัดก็เป็นได้ค่ะ และคุณพ่อมีอาการปวดมากจนนอนไม่หลับ หน้าซีด แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ที่ผ่าตัดโดยเร็วค่ะ เพื่อรับการตรวจร่างกายว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมอื่น แล้วจึงให้การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไปค่ะ

      ขอให้อาการดีขึ้นโดยเร็วนะคะ