ถามแพทย์

  • ก่อนหน้าเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบ กินยามา 1 เดือน ตอนนี้ปวดจุกลิ้นปี่ แน่นหน้าอก เป็นอะไร

  • คือ มีอาการปวดจุกลิ้นปี่ แน่นหนาอก กินยาก้อหายแปบเดียวแระก้อกับมาแน่นใหม่ ชอบกินข้าวแร้วนอน และมีอาการปวดจมูก หูฮื้อ ราวไปกร้ามปวดหัวด้วยคะ ไม่รู้ร่างกายเป็นอะไร แต่ก่อนน่านี้เป็นนต่อมเหลืองอักเสบที่คอ ข้างหู ก้อนก้อยุบและ แต่ยุบไม่หมดเป็นสองก้อน จากเซน 2 เหลือ ประมาณ0.5ซม มันเกี่ยวกันหรือป่าว แระหนูก้อเครียดมากกับเจ่าของนี้ กินยาวันทุกวัน 3คาบตลอดมา1เดือนเต้ม พยายามไม่เครียดกับมันมาก แต่มัรก้อเจ่บโน่นนี่คะ

    สวัสดีค่ะ คุณ ณัฐวดี มีเทียน,

                      อาการปวดจุกตรงลิ้นปี่ แน่นหน้าอก อาจเกิดจาก

                    1.โรคกระเพาะอาหารอักเสบ  โดยจะมีอาการปวดบริเวณท้องส่วนบน อาจเป็นบริเวณลิ้นปี่ลงไปถึงเหนือสะดือหรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน และปวดร้าวทะลุไปหลังได้ นอกจากนี้อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                    2.โรคกรดไหลย้อน อาการจะคล้ายๆ กับกระเพาะอาหารอักเสบ แต่จะมีอาการแสบร้อนกลางอกหรือแน่นหน้าอกร่วมด้วย หรือมีน้ำรสเปรี้ยวหรือขมในคอ หรือเจ็บคอ ระคายเคืองคอ เป็นต้น 

                    3.นิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งมักจะทำให้เกิดอาการปวดท้องบริเวณช่องท้องส่วนบนด้านขวา และมักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีอาการอื่นๆ เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องอืด และอาจมีจุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ด้วย

                     หากก่อนหน้านี้ มีประวัติเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบบริเวณคอ และได้ทานยารักษา โดยที่มียาแก้ปวดแก้อักเสบอยู่ ยาดังกล่าวก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกระเพาะอาหารอักเสบและกรดไหลย้อนได้ นอกจากนี้ ความเครียดก็เป็นสาเหตุด้วยเช่นกันค่ะ ดังนั้น หากในตอนนี้ ต่อมน้ำเหลืองได้ยุบลงแล้ว แม้จะยังยุบไม่หมด แต่หากไม่มีอาการปวดเจ็บแล้ว แนะนำควรหยุดทานยาแก้ปวดแก้อักเสบต่างๆ (แต่หากยังคงมียาปฏิชีวนะฆ่าเชื้ออยู่ ก็ให้ทานต่อจนหมดค่ะ) และในเบื้องต้น ก็ให้ดูแลรักษาแบบโรคกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อน เช่น การเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดต่างๆ อาหารผัด ไม่ทานอาหารรสจัด ไม่ทานเผ็ด ควรเคี้ยวช้าๆ ให้ละเอียด ไม่ทานและกลืนเร็ว ไม่ทานอาหารครั้งละปริมาณมากเกินไป ไม่ดื่มน้ำอัดลม อัดแก๊สต่างๆ รวมถึงชา กาแฟ โกโก้ แอลกอฮอล์ และไม่ควรทานอาหารแล้วนอนทันที ต้องเว้นระยะไปอย่างน้อย 2 ชั่วโมงค่ะ  

                       นอกจากนี้ อาจทานยาลดกรด เช่น แรนิทิดีน (ranitidine) ยาโอเมพราโซล (omeprazole) เป็นต้น แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น รุนแรงขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ

                        ส่วนอาการปวดจมูก หูอื้อ ไม่นาเกิดจากสาเหตุเดียวกับที่ทำให้มีอาการปวดจุกลิ้นปี่ ดังนั้น หากอาการปวดจมูก หูอื้อ ยังคงเป็นต่อเนื่อง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุต่อไปค่ะ