ถามแพทย์

  • ปวดท้องข้างขวามา 3 อาทิตย์ ได้ยาฆ่าเชื้อเรื่องช่องคลอดอักเสบมาแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรทำอย่างไร

  •  Ampere
    สมาชิก

    ปวดท้องช่วงวันแรกๆไปซื้อยาร้านยากิน ทางร้านให้ยาฆ่าเชื้อและแก้ปวดมากินแต่ไม่ดีขึ้นเลยไปหาหมอ ตรวจเลือดและปัสสาวะปกติ ให้ยาแก้อักเสบมากินเฉยๆ และกินยาฆ่าเชื้อให้หมด

    ครั้งที่สอง ไปรพ.รัฐ บอกอาการหมอไป หมอสั่งยาฆ่าเชื้อที่แรงกว่าร้านยามาให้ พอกินหมดก็ยังไม่หาย
    ครั้งที่สาม ไปรพ.รัฐที่เดิม ก็สั่งให้ตรวจเลือดและปัสสาวะ ผลคือปกติ เลยส่งไปแผนกสูติ-นรีเวช
    แผนกสูติ-นรีเวชตรวจภายในและอัลตราซาวน์ แค่ช่องคลอดอักเสบ ไม่มีก้อนเนื้อหรืออะไร
    ได้ยาฆ่าเชื้อมา2ตัวและ ยาสอด พอกิยาฆ่าเชื้อแล้วมีการมึนหัว คลื่นไส้ ตลอดเวลา และปวดท้องข้างขวามากกว่าเดิม มากๆ (กินยามาแล้ว1สัปดาห์)

    อยากทราบว่าควรกินยาจนหมดแล้วไปตรวจติดตามอาการหรือควรไปหาหมออีกรอบตอนนี้

    Ampere  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ Ampere

    อาการปวดท้องข้างขวาอาจจมีสาเหตุได้จากหลายระบบ เช่น ทางเดินปัสสาวะ ทางเดินอาหาร หรือสาเหตุทางนรีเวช เช่นมดลูกหรือรังไข่ มีการติดเชื้อ

    โดยหากพบสาเหตุเป็นเรื่องของทางนรีเวชนั้น แพทย์จะให้ยาฆ่าเชื้อมาเพื่อรักษาอาการอักเสบหรือติดเชื้อที่มีค่ะ ส่วนใหญ่แล้วหลังได้รับยาฆ่าเชื้อติดต่อกันเกิน 3 วันขึ้นไป น่าจะเริ่มมีการตอบสนองของโรค ก็คืออาการลดลง ส่วนเรื่องมีนหัว คลื่นไส้ เป็นอาการจากผลข้างเคียงยาที่พบได้บ่อย แต่คงต้องทราบชื่อยาที่แน่ชัดด้วยจึงจะพอบอกได้มากขึ้นค่ะ

    ดังนั้นหากกินยาติดต่อกันมาหลายวันแล้ว ยังปวดท้องขึ้นมาก ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุในระบบอื่นๆ ดูว่ามีหรือไม่หรือตรวจดูว่าช่องคลอดที่เคยอักเสบนั้นดีขึ้นแล้วหรือยังร่วมด้วย เบื้องต้นงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน รับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้