-
ปวดท้องน้อย เคยพบว่าเป็นปากมดลูกอักเสบ กินยาแล้ว ก็ยังปวดอยู่ ควรทำอย่างไร
-
Jun 18, 2019 at 11:21 AM
ในตอนแรกมีอาการประจำเดือนไม่มา 3 เดือนค่ะ ซึ่งคิดว่าเป็นปกติเพราะเป็นแบบนี้บ่อย ซึ่งเคยหาหมอตรวจภายในและมะเร็งปากมดลูกมาแล้วจึงไม่ได้วิตกอะไรรวมถึงไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ด้วยค่ะ แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมามีอาการปวดท้องน้อยข้างซ้าย ปวดพอรำคาญค่ะ ท้องผูก และพะอืดพะอมแน่นที่คอแต่ไม่อาเจียนออกเลยสักครั้ง จึงไปหาหมอคุณหมอตรวจภายในใช้ปากเป็ดและนิ้วค่ะไม่เหมือนกับการตรวจครั้งแรกที่เป็นกล้องเหมือนอัลตาซาวน์ คุณหมอบอกว่าเป็นปากมดลูกอักเสบจึงให้ยาเหน็บยาแก้ปวดและแก้อักเสบมากิน ส่วนอาการประจำเดือนไม่มาคุณหมอฉีดฮอโมนและให้ยาฮอโมนมาทาน ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์อาการปวดท้องน้อยเบาลงแต่มีการปวดเองหลังปวดขาหนีบและปัสสวะบ่อยมากขึ้นค่ะ ท้องยังผูกเหมือนเดิมและพะอืดพะอมเช่นเดิมค่ะ จึงไปหาหมออีกที่นึง ทำการตรวจปัสสวะเพื่อดูว่ากระเพาะปัสสวะอักเสบหรือไม่ ผลออกมาปกติค่ะได้ยาแก้ปวดและแก้อักเสบมาเหมือนเดิม ตอนนี้กังวลมากๆค่ะไม่รู้จะทำยังไงดี อาการแบบนี้บ่งบอกว่าเป็นอะไรได้อีกคะ ควรไปหาหมอแผนกไหน รบกวนด้วยค่ะJun 18, 2019 at 08:37 PM
สวัสดีค่ะคุณ kaannika
การวินิจฉัยที่เป็นไปได้
-กระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาจทำให้มีอาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะบ่อย การตรวจปัสสาวะไม่พบเชื้อ อาจเกิดจากการเคยได้รับยาฆ่าเชื้อนำมาก่อนทำให้ตรวจไม่พบเชื้อ
-ปวดจากสาเหตุทางนรีเวชเช่น อวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานอักเสบ อาจทำให้มีตกขาวผิดปกติ เลือดออกทางช่องคลอด มีไข้ร่วมด้วยได้ หรือมีเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ก็อาจปวดท้องน้อยมากระหว่างมีรอบเดือน
-ปวดจากกล้ามเนื้อหน้าท้องอักเสบ
-ปวดจากระบบทางเดินอาหาร เช่นมีลำไส้อักเสบ ลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง อาจมีอาการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงร่วมด้วย
แนะนำว่าหากยังมีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง แม้รับประทานยาที่แพทย์จ่ายมาแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ควรกลับไปตรวจร่างกายและตรวจปัสสาวะร่วมกับตรวจภายในถ้าจำเป็นซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากมีสาเหตุที่เป็นไปได้หลายอย่าง อาจต้องทำการตรวจเพิ่มเติม ในขั้นต้นอาจพบแพทย์ทั่วไปก่อนได้ หากแพทย์ตรวจว่าน่าจะเข้ากับระบบใดมากที่สุดจะส่งพบแพทย์เฉพาะทางตามระบบนั้นๆ
แนะนำงดการมีเพศสัมพันธ์ งดการยกของหนัก ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ รับประทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบได้ในเบื้องต้น ไม่สวนล้างช่องคลอด ไม่ซื้อยาปรับฮอร์โมนใดๆมารับประทานเอง
-
ถามแพทย์
-
ปวดท้องน้อย เคยพบว่าเป็นปากมดลูกอักเสบ กินยาแล้ว ก็ยังปวดอยู่ ควรทำอย่างไร