ถามแพทย์

  • ท้องผูกมาหลายปี แน่นท้อง ปวดท้องฝั่งซ้าย กินยาอะไรก็ไม่ถ่าย ช่วงนี้ปวดบิดมาก ต้องทำอย่างไร

  •  Jennisa Hingthaisong
    สมาชิก

    ว่าด้วยแม่เป็นท้องผูกมานานหลายปีแล้วค่ะ ถ่ายเองไม่เคยได้ปวดท้องถ่ายก็ถ่ายไม่ออก กินข้าวเข้าไปก็ไปแน่นอยูในท้องเพราะถ่ายไม่ออก ปวดท้องข้างเดียวฝั่งซ้าย เมื่อก่อนต้องกินยาดีท็อก ยาถ่าย ก็ถ่ายออก  แต่เดี๋ยวนี้กินยาอะไรที่ว่าดี ที่แรงสำหรับคนอื่นแต่สรับแม่หนูไม่เป็นผลอะไรเลยค่ะ  วันสองวันมานี้หนักเลยค่ะ ถ่ายไม่ออกปวดบิดมาก ไม่มีแรง แน่นจุกคลื่นไส้ ต้องทำยังไงดีคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Jennisa Hingthaisong,

                     อาการท้องผูก เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

                      1. การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง เพราะขาดตัวกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ จากการที่มีปริมาณอุจจาระน้อย เช่น เกิดจากการกินอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย หรือขาดการเคลื่อนไหวของร่างกาย ทำให้ลำไส้ไม่บีบเคลื่อนตัว

                      2. จากปัญหาทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ส่งผลให้ลำไส้ลดการบีบตัวลง

                       3. การทานยาบางชนิด ซึ่งมีผลข้างเคียงทำให้ท้องผูกได้ เช่น ยาดลดกรด ยารักษาอาการซึมเศร้า ยากันชัก ยาเสริมแคลเซียมและธาตุเหล็ก ยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยด์ เป็นต้น

                   4. การเสียสมดุลของฮอร์โมน เช่น ตั้งครรภ์ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น

                        5. มีการอุดตันภายในลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก เช่น มีเนื้องอกหรือมะเร็งของลำไส้ใหญ่ แต่มักมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ถ่ายอุจจาระมีมูกเลือดปน ถ่ายเป็นเลือด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด เป็นต้น หรืออาจเกิดจากเนื้องอกมดลูกที่มีขนาดใหญ่จนกดเบียดลำไส้ตรงและทวารหนัก เป็นต้น

                   ทั้งนี้ เมื่อมีท้องผูก ก็จะทำให้มีอาการแน่นท้อง ปวดท้องได้ หากปล่อยให้มีอาการท้องผูกเกิดขึ้นนานๆ อาจส่งผลทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารหนัก โรคแผลปริขอบทวารหนัก เกิดการโป่งพองของผนังลำไส้ออก (diverticulum) ซึ่งอาจตามมาด้วยการอักเสบติดเชื้อได้ หรือหากท้องผูกรุนแรงมาก อาจเกิดลำไส้อุดตันได้

                   ทั้งนี้ หากมีอาการท้องผูกมานานแล้ว แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ ซึ่งยาที่ใช้จะมีอยู่หลายชนิด หากใช้ยาไม่ได้ผล ก็อาจใช้วิธีการสวนทวารค่ะ (ในกรณีที่ไม่มีโรคอะไร) ในเบื้องต้น ก็ควรพยายามดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรืออาจดื่มมากกว่านั้น ให้ได้ประมาณวันละ 3 ลิตร และทานอาหารที่มีกากใยสูง ซึ่งก็คือผักและผลไม้ต่างๆ โดยควรให้มีอยู่ในทุกมื้อของอาหาร และอาจทานโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว ซึ่งจะช่วยให้ถ่ายง่ายขึ้นได้ เนื่องจากมีแบคทีเรียที่ไปช่วยการทำงานของลำไส้ใหญ่ หากทานได้น้อย อาจทานผลิตภัณฑ์ที่เป็นไฟเบอร์ช่วยเสริม นอกจากนี้ควรออกกำลังกายทุกวัน หรืออย่างน้อยก็ควรเดินบ่อยๆ หรือวิ่ง เพื่อให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนไหว และควรฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา ที่สำคัญไม่ควรเบ่งถ่ายค่ะ