มีอาการเจ็บท้องบิด อุจจาระออกมา แล้วมีอาเจียนไปในเวลาเดียวกัน เป็นอะไร รักษาอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ Bam Saranpronn,

                   อาการปวดท้องบิด อาเจียน อาจเกิดจากสาเหตุ

                   - อาหารเป็นพิษ หรือลำไส้อักเสบเฉียบพลัน ซึ่งเกิดจากการทานอาหารหรือน้ำดื่มที่ไม่สะอาด มีการปนเปื้อนเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรคเข้าไป อาการ ได้แก่ ปวดมวนท้อง ปวดบิดท้อง ถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                   - ไส้ติ่งอักเสบ อาการปวดมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน โดยเริ่มที่บริเวณรอบสะดือ ต่อมาย้ายไปปวดที่ท้องด้านล่างขวา อาการปวดจะรุนแรงเรื่อยๆ ภายใน 1-2 วัน และมักมีไข้ร่วมด้วย อาจมีท้องเสีย ท้องอืด อาเจียน ปัสสาวะผิดปกติ ร่วมด้วย 

                   - กระเพาะอาหารอักเสบ จะมีอาการปวดบริเวณลิ้นปี่ หรือปวดค่อนไปทางด้านซ้าย อาจปวดแบบจุกแน่น หรือแสบร้อน นอกจากนี้อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย อิ่มเร็ว เรอบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

                   -  มีนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งมักจะทำให้เกิดอาการปวดท้องบริเวณช่องท้องส่วนบนหรือด้านขวา อาการจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน และมักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย อาการปวดมักเกิดขึ้นหลังจากทานอาหารมื้อหนัก หรืออาหารที่มีไข่มันสูง นอกจากนี้อาจมีอาการอื่นๆ เช่น อาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมในกระเพาะอาหาร และอาจมีจุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ด้วย

                   ในเบื้องต้น เพิ่งมีอาการวันนี้ และหากยังไม่มีไข้ ก็น่าจะเป็นอาหารเป็นพิษ หรือลำไส้อักเสบเฉียบพลันได้  ให้พยายามดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มาก และดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย สำหรับอาหาร ควรทานอาหารเฉพาะอ่อน อาหารที่ย่อยง่าย รสจืด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของผัด เป็นต้น ไม่ดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ อาจทานยาแก้อาเจียน เช่น  เมโทโคลพราไมด์ (metoclopramide) เป็นต้น และยาแก้ปวดท้องแบบบิด เช่น hyoscine butylbromide (ไฮออสซีน บิวทิลโบรไมด์) เป็นต้น หากอาการไม่ดีขึ้น แนะนำควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจค่ะ