-
มีอาการปวดหัวข้างเดียวสลับไปมา ทานยาแล้วยังมีอาการปวดอยู่ เกิดจากอะไร ทำอย่างไรจึงจะหาย
-
Nov 14, 2019 at 02:08 PM
สวัสดีค่ะ ดิฉันมีอาการปวดหัวข้างเดียว คือเริ่มจากข้างซ้าย อาการจะเริ่มเป็นหลังจากตื่นนอนได้สักพัก แล้วช่วงนี้กำลังสอบ อ่านหนังสือหนักด้วยค่ะ ปวดหัวข้างซ้ายมาก กินพาราก็ไม่หาย ต้องไปหาหมอที่รพ.ใกล้บ้าน หมอจ่าบยา ไอบูโพรเฟนกับพราเซตามอล+ออเฟนาดีน มาค่ะ หลังจากกินยาตัวนี้มาได้ 2-3วัน อาการดีขึ้น ไม่ปวดหัวข้างซ้ายแล้ว แต่มาปวดหัวข้างขวาแทนค่ะ ปวดลามลงมาเบ้าตา โหนกแก้ม ฟันค่ะ ปวดข้างขวามาสามวัน ก็กินยาสองตัวที่หมอจ่ายมาให้ค่ะ อาการร่วมอย่างอื่นไม่มี อยากทราบว่ามันเกิดจากอะไร เป็นไมเกรนหรือไม่ อยากจะให้คุณหมอช่วยแนะนำว่าต้องทำอย่างไรกับอาการแบบนี้ดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
Nov 14, 2019 at 04:15 PM
คุณ กชกร
อาการของคุณ น่าจะเกิดจากโรคปวดหัวที่เกิดจากความเครียด วิตกกังวล ที่แพทย์เรียกว่า Tension headache นะครับ ต้องแยกจากโรคอื่นๆ คือ โรคปวดหัวจากสายตาล้า eys straine หรือ โรคไมเกรน
คำแนะนำ คือ ต้องไม่ดูหนังสือหักโหม จะทำให้เกิดความเครียดอ่อนล้าของสมอง ประสาทตา กล้ามเนื้อทีศีรษะและไหล่ เกิดการเกร็งตัว ควรดุหนังสือสัก 55 นาที แล้วพัก 5 นาที มีการบีบนวดท้ายทอย ขมับให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายบ้าง ล้างหน้าด้วยผ้าเย็นๆจะช่วยคลายการเกร็งตัว หาเวลาพักผ่อนให้เต็มที่ ไม่ควรอดนอน ออกกำลังกายพอสมควร ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ วัดสายตาว่าไม่สั้น ไม่เอียง ถ้าพบผิดปกติควรใส่แว่นช่วย
อาการปวดหัวแบบไมเกรน จะปวดแบบตามจังหวะการเต้นของเส้นเลือด ตุ๊บๆ มีการปวดข้างเดียว ปวดร้าวไปแขนไหล่ รอบตาได้ มีการปวดเพิ่มขึ้นเมื่อมองแสงจ้าๆ กลิ่นเหม็น มองเห็นแสงสีรุ้ง ก่อนหรือหลังมี ปจด การกินยาคุมกำเนิด เพิ่มการปวดหัวได้ มักบรรเทาได้ด้วยการทานกาแฟ โกโก้ร้อน ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น อาจขอแพทย์ให้สั่งยาคลายเครียดเพิ่มขึ้นได้ครับ
-
ถามแพทย์
-
มีอาการปวดหัวข้างเดียวสลับไปมา ทานยาแล้วยังมีอาการปวดอยู่ เกิดจากอะไร ทำอย่างไรจึงจะหาย