ถามแพทย์

  • มีอาการปวดหัวข้างเดียวสลับไปมา ทานยาแล้วยังมีอาการปวดอยู่ เกิดจากอะไร ทำอย่างไรจึงจะหาย

  •  กชกร กชกร
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะ ดิฉันมีอาการปวดหัวข้างเดียว คือเริ่มจากข้างซ้าย อาการจะเริ่มเป็นหลังจากตื่นนอนได้สักพัก แล้วช่วงนี้กำลังสอบ อ่านหนังสือหนักด้วยค่ะ ปวดหัวข้างซ้ายมาก กินพาราก็ไม่หาย ต้องไปหาหมอที่รพ.ใกล้บ้าน หมอจ่าบยา ไอบูโพรเฟนกับพราเซตามอล+ออเฟนาดีน มาค่ะ หลังจากกินยาตัวนี้มาได้ 2-3วัน อาการดีขึ้น ไม่ปวดหัวข้างซ้ายแล้ว แต่มาปวดหัวข้างขวาแทนค่ะ ปวดลามลงมาเบ้าตา โหนกแก้ม ฟันค่ะ ปวดข้างขวามาสามวัน ก็กินยาสองตัวที่หมอจ่ายมาให้ค่ะ อาการร่วมอย่างอื่นไม่มี อยากทราบว่ามันเกิดจากอะไร เป็นไมเกรนหรือไม่ อยากจะให้คุณหมอช่วยแนะนำว่าต้องทำอย่างไรกับอาการแบบนี้ดีค่ะ  ขอบคุณค่ะ

    คุณ กชกร

    อาการของคุณ น่าจะเกิดจากโรคปวดหัวที่เกิดจากความเครียด วิตกกังวล ที่แพทย์เรียกว่า Tension headache นะครับ  ต้องแยกจากโรคอื่นๆ คือ โรคปวดหัวจากสายตาล้า eys straine หรือ โรคไมเกรน  

    คำแนะนำ คือ ต้องไม่ดูหนังสือหักโหม จะทำให้เกิดความเครียดอ่อนล้าของสมอง ประสาทตา  กล้ามเนื้อทีศีรษะและไหล่ เกิดการเกร็งตัว  ควรดุหนังสือสัก 55 นาที แล้วพัก 5 นาที  มีการบีบนวดท้ายทอย ขมับให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายบ้าง  ล้างหน้าด้วยผ้าเย็นๆจะช่วยคลายการเกร็งตัว  หาเวลาพักผ่อนให้เต็มที่ ไม่ควรอดนอน  ออกกำลังกายพอสมควร  ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่  วัดสายตาว่าไม่สั้น ไม่เอียง ถ้าพบผิดปกติควรใส่แว่นช่วย

    อาการปวดหัวแบบไมเกรน จะปวดแบบตามจังหวะการเต้นของเส้นเลือด ตุ๊บๆ  มีการปวดข้างเดียว ปวดร้าวไปแขนไหล่ รอบตาได้  มีการปวดเพิ่มขึ้นเมื่อมองแสงจ้าๆ  กลิ่นเหม็น  มองเห็นแสงสีรุ้ง   ก่อนหรือหลังมี ปจด การกินยาคุมกำเนิด เพิ่มการปวดหัวได้    มักบรรเทาได้ด้วยการทานกาแฟ โกโก้ร้อน     ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น อาจขอแพทย์ให้สั่งยาคลายเครียดเพิ่มขึ้นได้ครับ