ถามแพทย์

  • เวลาก้มและไอ จะปวดหัวด้านขวา ตอนนี้ปวดมาถึงตาด้านขวาแล้ว ทำอย่างไร

  •  FFkul
    สมาชิก

    อาการเริ่มเป็นเมื่อวาน ผมมีแาการเวลาก้มจะมีอาการปวดหัวด้านขวา
    และไอก็จะมีอาการเจ็บหัวด้านขวาเหมือนกัน ตอนนี้เริ่มปวดมาถึงตาด้านขวาแล้ว

    ทำไงได้บ้างคับ

    FFkul  FFkul
    สมาชิก

    FFkul
    Jun 22, 2021 at 10:29 AM

    อาการเริ่มเป็นเมื่อวาน ผมมีแาการเวลาก้มจะมีอาการปวดหัวด้านขวา
    และไอก็จะมีอาการเจ็บหัวด้านขวาเหมือนกัน ตอนนี้เริ่มปวดมาถึงตาด้านขวาแล้ว

    ทำไงได้บ้างคับ

     

    สวัสดีค่ะ คุณ FFkul,

                      อาการปวดหัวเวลาก้ม ไอ เบ่ง อาจเกิดจาก

                - กล้ามเนื้อบริเวณกระโหลกศีรษะเกิดการอักเสบ เช่น จากการโดนแทก เป็นต้น ดังนั้น เมื่อเกิดการเคลื่อนไหวหรือมีการยืดกล้ามเนื้อเกิดขึ้น เช่น จากการไอหรือจาม เบ่ง หรือก้มตัวดังกล่าว ก็จะทำให้รู้สึกเจ็บได้ และมักมีจุดกดเจ็บที่ชัดเจน 

                 - ไซนัสอักเสบ อาจทำให้มีอาการปวดศีรษะเวลาก้มหน้าและเปลี่ยนท่าได้ โดยจะรู้สึกปวดหน่วงๆ ตื้อ ๆ บริเวณหน้าผาก หรืออาจปวดกระบอกตา โหนกแก้ม แต่มักมีอาการอื่นๆ ของไซนัสอักเสบอยู่ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล และการได้กลิ่นลดลง

                  - มีโรคต่างๆ ในสมอง เช่น เนื้องอกในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีน้ำคั่งในโพรงสมอง เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง เป็นต้น แต่อาการปวดจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงมีอาการผิดปกติอื่นๆ อีก เช่น อาเจียน การเคลื่อนไหวของร่างกายผิดปกติ การมองเห็นผิดปกติ การได้ยินผิดปกติ เป็นต้น

                  - จากการที่ต้องทำงานกับคอมพิวเตอร์ หรือทำงานเอกสารที่ต้องก้มคอเป็นเวลานาน อาจทำให้มีอาการปวดต้นคอ ปวดท้ายทอยและรู้สึกปวดหนักๆ หัวได้ โดยเฉพาะเวลาหัน หรือก้มหน้า เงยหน้า รวมถึงการไอ จามและเบ่งได้

                   - หากอาการปวดเป็นมานานแบบต่อเนื่องหลายเดือนแล้ว คือปวดแบบเป็นๆ หายๆ อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น ปวดศีรษะจากความเครียด (tension-type headache) ปวดศีรษะไมเกรน เป็นต้น

                    ดังนั้น หากอาการเพิ่งเป็นมาไม่กี่วัน และเป็นไม่รุนแรง ก็อาจสังเกตอาการไปก่อน ในเบื้องต้น อาจทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน ไพรอกซิแคม เป็นต้น ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดการทำงานแบบนั่งก้มคอมากไป ไม่ใช้สายตามากไป เป็นต้น หากอาการเจ็บหัว ปวดหัวไม่ดีขึ้น รือมีอาการผิดปกติอื่นๆ เพิ่มเติม ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ