ถามแพทย์

  • ปวดหัวตุบๆทั้งสองข้างส่วนมากเป็นข้างขวา

  •  DonyLee
    สมาชิก
    มีอาการปวดหัวตุบๆทั้งสองข้างแต่ส่วนมากจะปวดที่ด้านขวาและปวดไม่ค่อยแรงมากปวดไม่ค่อยนาน บางทีก็ปวดที่กลางหัวส่วนบนอันตรายรึเปล่าคะ บางทีมีเวียนหัวด้วย

    สวัสดีค่ะ คุณ DonyLee,

                       อาการปวดศีรษะ เกิดได้จากหลายสาเหตุ แบ่งออกเป็น 

                   1. อาการปวดศีรษะแบบทุติยภูมิ เป็นอาการปวดมาจากโรค หรือมีสาเหตุที่ชัดเจน ซึ่งสาเหตุ ได้แก่

                       - การเป็นไข้ติดเชื้อโรคต่างๆ ทั้งในสมองและนอกสมอง เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ มีฟันผุ เหงือกอักเสบ

                       - โรคของตา เช่น โรคต้อหิน มีสายตาสั้น รวมถึงการใช้สายตามากไป การจ้องโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์มากไป เป็นต้น

                       - โรคทางสมอง เช่น หลอดเลือดในสมองโป่งพอง เนื้องอกในสมอง เป็นต้น

                       - ร่างกายขาดน้ำ 

                       - การดื่มคาเฟอีน หรือขาดคาเฟอีนในผุ้ที่ดื่มเป็นประจำ การดื่มแอลกอฮอล์มากไป

                       - การนอนไม่หลับ 

                     อาการปวดจากสาเหตุเหล่านี้ ส่วนใหญ่อาการปวดจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน เป็นต่อเนื่อง (หากสาเหตุยังไม่ได้ถูกแก้ไข) ไม่ได้เป็นแบบเป็นๆ หายๆ 

                   2. อาการปวดศีรษะแบบปฐมภูมิ เป็นอาการปวดที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด อาการจะเป็นแบบเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ ไม่ได้มีลักษณะที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสามารถแบ่งตามอาการที่ปวด ได้แก่

                     - ปวดศีรษะจากความเครียด (tension-type headache) จะปวดเหมือนมีเข็มขัดรัดรอบศีรษะ อาการปวดจะเป็นมากในช่วงบายถึงค่ำ ส่วนตอนเช้ามาอาการปวดจะเป็นน้อย อาการปวดจะถูกกระตุ้นเมื่อมีความเครียด วิตกกังวล ทำงานหนัก เรียนหนัก ใช้สายตามากไป อดนอน เป็นต้น 

                       - ปวดศีรษะไมเกรน  ส่วนใหญ่มักจะปวดข้างเดียว อาการปวดเป็นแบบตุ๊บๆ โดยส่วนใหญ่จะปวดต่อเนื่องนาน 1-3 วันแล้วหายไป ขณะปวดอาจมีอาการอื่นๆ ร่วม เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร  มึนหัว เป็นต้น บางรายจะมีอาการนำมาก่อนปวดศีรษะ เช่น เห็นแสงสว่างลักษณะซิกแซก เป็นต้น ปัจจัยที่กระตุ้นให้ไมเกรนกำเริบ เช่น ความเครียด ช่วงมีประจำเดือน อาหารบางอย่าง เป็นต้น

                       - ปวดศีรษะคลัสเตอร์ (cluster headache) เป็นอาการปวดศีรษะข้างเดียวแบบรุนแรง โดยจะมีอาการเพียงไม่กี่ชั่วโมงแล้วหายไป และปวดขึ้นมาอีกเป็นระยะๆ มักมีอาการตาแดง น้ำตาไหล น้ำมูกไหล หนังตากตกร่วมด้วย

                      หากอาการปวดหัวเป็นมานานแล้ว โดยเป็นแบบเป็นๆ หายๆ อาการปวดไม่ได้มีลักษณะที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะเป็นอาการปวดศีรษะแบบปฐมภูมิ การรักษาก็จะเป็นการบรรเทาตามอาการ หลีกเลี่ยงสิ่งที่น่าจะกระตุ้นให้เกิดการปวด การทานยาแก้ปวด นอกจากนี้ ก็ควรลดความเครียดต่างๆ ที่มี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเปล่ามากๆ งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนต่างๆ และแอลกอฮอล์ ไม่ใช้สายตาจ้องโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์มากไป เป็นต้นแต่หากอาการปวดเพิ่งเป็นมาไม่นาน มีลักษณะที่ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วม เช่น มีไข้ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ