ถามแพทย์

  • ปวดหัวเฉพาะช่วงใกล้มีประจำเดือนและช่วงมีประจำเดือน ทานยาแล้วก็ไม่หายปวด เป็นเพราะสาเหตุใด

  •  noitana
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณหมอ

    ดิฉันมีอาการปวดหัวบริเวณด้านหน้าของศรีษะ กระบอกตา โหนกแก้ม จะปวดเฉพาะเวลาใกล้มีประจำเดือน ช่วงมีประจำเดือน ไปจนถึงประจำเดือนหมด   ซื้อยามาทานเอง เภสัชฯจะจ่ายยา ibuprofen 400 มาให้ ทานแล้วก็ไม่หายปวด อาการก็เหมือนเดิม อยากทราบว่าเป็นเพราะสาเหตุใดค่ะและมีวิธีรักษายังไงคะ (อ้อ เคยหาหมอที่ รพ.นะคะ คุณหมอ ก็ให้กินพารา ค่ะ)

    สวัสดีค่ะ คุณ noitana,

                       ในช่วงก่อนการมีประจำเดือนมา อาจมีอาการต่างๆ เกิดขึ้นได้ เรียกว่าอาการก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual Syndrome) ซึ่งอาการจะมีได้หลากหลาย และในแต่ละเดือนก็จะไม่เหมือนกัน ในบางรอบเดือนอาจไม่มีอาการอะไรก็ได้ อาการได้เแก่ เจ็บเต้านม ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูกหรือท้องเสีย คลื่นไส้ มีสิวขึ้น อยากทานอาหารมากกว่าปกติ อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล นอนไม่หลับ เป็นต้น

                   และในขณะที่ประจำเดือนมา ก็อาจเกิดอาการต่างๆ ได้เช่นกัน แต่ก้จะค่อยๆ น้อยลง จนหายไปเมื่อประจำเดือนหมด

                   ดังนั้น หากมีอาการปวดหัวเฉพาะในช่วงก่อนการมีประจำเดือนมา และในช่วงที่มีประจำเดือนมา แล้วเมื่อประจำเดือนหมดไปแล้ว อาการปวดหัวได้หายไป ก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติค่ะ

                   ทั้งนี้ ในช่วงก่อนมีประจำเดือน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ โดยก่อนมีประจำเดือน 1-3 วัน ระดับเอสโตรเจนจะลดลงอย่างรวดเร็ว (estrogen withdrawal) ในผู้ที่สมองมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ (จากพันธุกรรม) หรือผู้ที่เป็นโรคปวดศีรษะไมเกรนอยู่แล้ว ก็จะเกิดการกระตุ้นให้ปวดหัวได้ค่ะ

                   เมื่อมีอาการปวดหัว ก็ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำสิ่งที่อาจกระตุ้นให้ปวดมากขึ้น เช่น การใช้สายตากับโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์มากไป การดื่มชา กาแฟมากไป เป็นต้น ทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน เป็นต้น ทั้งนี้ การจะทำให้อาการปวดหัวก่อนและขณะมีประจำเดือนหายไปเลยนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะร่างกายของเราจะต้องมีฮอร์โมนและมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอยู่ค่ะ

                   อย่างไรก็ตาม หากมีอาการปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกรอบเดือน ก็ควรไปแพทย์ เพื่อหาสาเหตุว่ามีโรคอื่นร่วมด้วยไหม เช่น โรคปวดศีรษะไมเกรน โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น เพื่อรักษาด้วยยาอื่นเพิ่มเติมค่ะ