อายุ 20 ปี ปวดหู มีน้ำไหล กลืนน้ำลายมีเสียง ทานยา Torcozia90 ได้ไหม

สวัสดีค่ะ คุณ นราพงค์ สุทธิ,

             อาการปวดหู มีน้ำไหลจากหู มีเสียงในหู อาจเกิดจาก

             1. มีสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในรูหู  เช่น แมลง มด เห็บ หรือเมล็ดพืช 

             2. มีการอักเสบติดเชื้อของรูหูชั้นนอก มักเกิดภายหลังการแคะหู หรือหลังจากไปว่ายน้ำ อาการคือ ปวดหู กดเจ็บบริเวณหน้าใบหู เมื่อดึงใบหูหรือโยกใบหูจะเจ็บมากขึ้น หูอื้อ มีน้ำเหลืองไหลออกมา รูหูบวมแดง

              3. หูชั้นกลางอักเสบติดเชื้อแบบเฉียบพลัน อาการคือปวดหูมาก มีไข้ การได้ยินเสียงลดลง หลังจากนั้นอาการปวดและไข้จะลดลง แต่จะมีหนองไหลจากรูหู

              4. มีสิวหรือฝีในรูชั้นนอกหู เกิดจากการอุดตันของไขมันและมีเชื้อโรคสะสมจนทำให้เป็นเกิดสิวหรือฝีได้ ซึ่งทำให้มีอาการปวดได้ แต่ไม่น่ามีน้ำไหลจากรูหู

              5. ขี้หูอุดตัน เกิดจากร่างกายมีการผลิตของขี้หูมาก และอาจเกิดการสะสมของขี้หูจนอุดตัน ทำให้ปวดหู ได้ยินเสียงลดลงได้  

                หากยังคงมีอาการปวดหู และมีน้ำไหลออกจากรูหู ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ เพราะหากเป็นการอักเสบติดเชื้อของรูหูชั้นกลางหรือชั้นนอก ก็ต้องทานยาปฏิชีวนะเพื่อรักษา ในเบื้องต้น ให้งดการแคะรูหู และระวังอย่าให้น้ำเข้าหู เพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบมากขึ้น เช่น การใช้สำลีอุดรูหูในขณะอาบน้ำ งดการว่ายน้ำ เป็นต้น

                สำหรับยา Torcozia  คือตัวยา etoricoxib ซึ่งอยู่ในกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เป็นยาที่ใช้ในผู้ใหญ่และเด็กโตอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป โดยออกฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดจากสาเหตุต่างๆ ซึ่งการที่มีอาการปวดหู ก็สามารถทานได้ แต่ต้องไม่แพ้ยาในกลุ่มนี้ และแนะนำควรเริ่มทานในขนาด 60 มิลลิกรัมก่อน หากทานที่ขนาด 90 มิลลิกรัม อาจได้ปริมาณยามากไป และให้ทานแค่วันละ 1 ครั้งค่ะ ทั้งนี้ ยานี้จะช่วยแค่บรรเทาอาการปวด แต่ไม่ได้ช่วยรักษาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหูได้ ดังนั้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาด้วยค่ะ