-
ปวดเอวและปวดสะโพกข้างซ้าย ถ้าต้องใช้ยาต่อเนื่อง จะมีอันตรายไหม
-
Sep 20, 2021 at 04:08 PM
มีอาการปวดที่เอวและสะโพกข้างซ้ายมาประมาณ 1 เดือนเศษ ลักษณะการปวดเป็นแบบเสียวแปล๊บ ๆ เวลานั่งแล้วลุก เวลานอนพลิกตัว และเวลาก้ม ไม่มีอาการร้าวลงขา ไปพบหมอมาหลายที่ จะบอกว่าเป็นที่กล้ามเนื้ออักเสบ ลองหาข้อมูลในเวปคาดว่าน่าจะเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ QL อักเสบ จากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ
ช่วงที่ปวดมาก ใช้วิธีทานยา Difelene 50 mg 1 เม็ด + Norgesic 1 เม็ด วันละสองครั้งเช้าเย็น อาการก็จะทุเลาลง แต่เมื่อลองหยุดยาอาการปวดก็กลับมาอีก ทั้งที่พยายามทำท่ากายภาพบำบัดตามที่เจอในเวปอยู่ทุกวัน
คำถามคือ ขนาดยา Difelene ที่ใช้อยู่นี้ จะมีผลกระทบต่อไตมากน้อยแค่ไหนครับ เพราะผมกลัวผลต่อไตมาก (ปัจจุบันอายุ 46 ปี ไม่มีโรคประจำตัวอะไร มีการตรวจสุขภาพทุกปีครับ) อาการลักษณะนี้สามารถเปลี่ยนไปใช้ยากลุ่มอื่นที่มีผลต่อไตน้อยกว่ายากลุ่ม NSAID ได้ไหมครับขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะครับ
Sep 20, 2021 at 08:40 PM
สวัสดีค่ะคุณ nnoppon
อาการปวดเอวและปวดสะโพกข้างซ้ายนั้น อาจจะมีสาเหตุมาได้จาก หมองรองกระดูกกดทับเส้นประสาท กล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นตึงตัวจากการใช้งาน หรือการฉีกขาดของกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นกรณีการมีอุบัติเหตุนำมาก่อน การมีนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
โดยการให้ได้การวินิจฉัยที่แน่ชัดควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายจริงอย่างละเอียดร่วมไปด้วย หากเป็นเกี่ยวกับกล้ามเนื้อคือสัมพันธ์กับการใช้งานชัดเจน การรักษาหลักๆจะเป็นการปรับพฤติกรรม และการบรรเทาอาการปวด
โดยยาที่สามารถใช้ได้เช่นยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์หรือยา diclofenac ดังที่กล่าวมา การใช้ยาตัวนี้อาจจะมีผลต่อไตหากใช้ต่อเนื่องในระยะยาว หรือใช้ในคนที่มีไตเสื่อมเดิมอยู่แล้ว และอาจทำให้เกิดการแพ้ยาได้ จึงควรใช้ระยะสั้นๆเมื่อปวดเท่านั้น และใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ หากจะรับประทานในระยะยาว อาจจะเลี่ยงไปใช้กลุ่ม paracetamol หรือ norgesic ที่อาจมีผลต่อไตได้น้อยกว่า แต่ก็ไม่ควรใช้ต่อเนื่องนานเกินไป หากอาการไม่ดีขึ้นหลังการใช้ยา ควรแจ้งแพทย์ที่ดูแลให้ทราบเพือตรวจร่างกายหาสาเหตุที่ชัดเจนซ้ำอีกครั้ง
-
ถามแพทย์
-
ปวดเอวและปวดสะโพกข้างซ้าย ถ้าต้องใช้ยาต่อเนื่อง จะมีอันตรายไหม