ปวดเอว ด้านหลังข้างขวา และจุกบริเวณอัณฑะข้างขวา เป็นมา 1 สัปดาห์ และนอนไม่ค่อยหลับ เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ somkiatsaekaw@gmail.com,

                  อาการจุกที่อัณฑะ ปวดเอว ปวดหลังด้านขวา อาจมีสาเหตุมาจากต้นเหตุเดียวกัน คือ 

                   1. ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ อาการคือจะคลำพบก้อนที่อัณฑะ โดยเฉพาะเวลายืน นั่ง หรือไอ และจะยุบหายเวลานอนราบ หรือหากคลำไม่ได้ก้อน ก็อาจทำให้แค่รู้สึกจุก หน่วงๆ ที่อัณฑะและท้องน้อยได้ ซึ่งก็อาจทำให้ปวดลามไปถึงหลังได้

                   2. อัณฑะอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจากเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคคางทูม หรือเชื้อแบคทีเรียที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม แต่อาการคือ ปวด เจ็บอัณฑะ อัณฑะบวมแดง น้ำอสุจิเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด มีหนองตรงปลายท่อปัสสาวะ และอาจทำให้ปวดทองน้อยได้ เป็นต้น

                   3. นิ่วในไต จะทำให้มีอาการปวดเอว ปวดหลัง และอาจลามมาที่อัณฑะได้ แต่มักมีอาการปัสสาวะที่ผิดปกติร่วม เช่น ปัสสาวะแล้วเจ็บ ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะเป็นเลือด มีตะกอนปน เป็นต้น

                   อย่างไรก็ตาม อาการปวดเอวและปวดหลัง อาจเกิดจากคนละสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการจุกที่อัณฑะก็ได้ เช่น เกิดจากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อบริเวณหลัง มีหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เป็นต้น

                   ส่วนอาการนอนไม่หลับ อาจเกดิจากการที่เรามีอาการปวดเอว ปวดหลังอยู่ หรือเกิดจากสาเหตุทางจิตใจ เช่น มีความเครียด วิตกกังวล เป็นต้น หรือเกิดจากสภาพแวดล้อมก็ได้ เช่น อากาศร้อนไป หนาวไป เสียงดังเกินไป เปลี่ยนสถานที่นอน เป็นต้น

                    แนะนำว่าหากอาการจุกที่อัณฑะไม่หายไป ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวาเป็นไส้เลื่อนหรือไม่ เพราะเป็นโรคที่ต้องรีบรักษาค่ะ แต่หากอาการจุกอัณฑะหายไปแล้ว และคลำไม่ได้ก้อนที่อัณฑะ ก็ไม่น่าอันตรายอะไร ซึ่งอาการปวดหลัง ปวดเอว อาจดูแลตนเองในเบื้องต้นไปก่อนได้ เช่น งดการยกของหนัก งดการยืนหรือเดินนานๆ งดการทำงานในท่าก้ม หรือก้มๆ เงยๆ ใช้ท่าทางในการทำงานให้ถูกต้อง และอาจทานยาแก้ปวดแก้อักเสบกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น  ไดโคลฟีแนค (diclofenac), ไพรอกซิแคม (piroxicam) เป็นต้น ร่วมกับยาคลายกล้ามเนื้อ แต่หากอาการเป็นต่อเนื่อง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ

                      ส่วนอาการนอนไม่หลับ หากเป็นบ่อยๆ หรือเป็นต่อเนื่องจนทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอนในตอนกลางวัน ขาดสมาธิในการทำงาน ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาเช่นกันค่ะ