พ่อมีอาการปัสสาวะเป็นเลือดมานาน 2 เดือน X-Rayสงสัยเป็นนิ่ว มีนัดทำ CT scan แต่ต่อมาอาการหายไป ใช่มะเร็งกระเพาะปัสสาวะหรือไม่

 สวัสดีค่ะ คุณ NAYHRDB,

                   อาการปัสสาวะเป็นเลือด (Hematuria) เป็นอาการที่ปัสสาวะแล้วมีเม็ดเลือดแดงปน ทำให้สีของปัสสาวะเป็นสีชมพู หรือสีแดง หรือสีน้ำตาลเข้ม มีสาเหตุได้จาก

               - การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย แต่มักมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหรือแสบขณะปัสสาวะ ถ่ายปัสสาวะบ่อยครั้ง กลั้นปัสสาวะไม่ได้ รู้สึกปัสสาวะไม่สุด ปวดท้องน้อย เป็นต้น

               - มีนิ่วในไต หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

               - โรคไตบางชนิด เช่น ไตอักเสบ (Glomerulonephritis)

               - มีภาวะเลือดออกผิดปกติ เช่น เกร็ดเลือดต่ำ โรคเกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ การใช้ยาละลายลิ่มเลือด

               -  การออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก

               -  อวัยวะในทางเดินปัสสาวะได้รับบาดเจ็บ เช่น เกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา

               - เนื้องอกหรือมะเร็งที่ไตหรือกระเพาะปัสสาวะ

                สำหรับการเอ๊กเรย์ธรรมดา มีโอกาสที่จะเห็นก้อนนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะได้ แต่หากเป็นก้อนมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ มีโอกาสที่จะมองไม่เห็น ดังนั้น จึงอาจต้องตรวจเพิ่มเติมด้วยเอ๊กซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ ส่วนมะเร็งที่ไต หากมีขนาดใหญ่ การเอ๊กซเรย์ธรรมดาอาจมีโอกาสเห็นได้

                 สำหรับมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะนั้น นอกจากจะทำให้มีปัสสาวะปนเลือดแล้ว อาจมีอาการอื่น ๆ อีก เช่น เจ็บหรือแสบขณะปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือปัสสาวะไม่ออก ปวดท้องน้อย ปวดหลัง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากเป็นในระยะแรกๆ อาจไม่มีอาการเหล่านี้ก็ได้

               มะเร็งกระเพาะปัสสาวะนั้นหากเป็นระยะแรก หรือระยะที่ 1 อาจไม่เห็นเป็นก้อนเนื้อขึ้นมาชัดเจน มีเพียงเยื่อบุผิวที่จะจะดูหนาและขรุขระมากขึ้น แต่เมื่อลุกลามเป็นมากขึ้น ก็จะเห็นเป็นก้อนในกระเพาะปัสสาวะได้

                 หากคุณพ่อ ไม่มีอาการปัสสาวะผิดปกติแล้ว และไม่มีอาการอื่นๆ ก็น่าจะไม่ใช่มะเร็ง อย่างไรก็ตาม หากเคยมีอาการติดต่อกันนานถึง 2 เดือน แนะนำควรไปตรวจเอ๊กซเรย์คอมพิวเตอร์ตามที่แพทย์นัดค่ะ