ถามแพทย์

  • หูอื้อได้ยินไม่ชัด มีเสียงหวี่ ไม่ปวด จะหายเองไหม

  • หูอื้อได้ยินไม่ชัดมีเสียงหวี่ไม่ปวดไม่มีนํ้าอะไรไหลออกมาและมันจะหายเองไหมครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ ไม้เมือง คำวงษา,

                        อาการหูอื้อ หรือมีเสียงในหู (tinnitus) หมายถึง การได้ยินเสียงลดลง ความคมชัดของเสียงลดลง หรือรู้สึกเหมือนมีอะไรอุดหูอยู่ หรือรู้สึกมีเสียงดังในหู ซึ่งอาจเป็นเสียงแหลม วี๊ดๆ คล้ายมีแมลงบินในหู หรือเสียงหึ่งๆ หรือเสียงตุบๆ ตามจังหวะชีพจร หรือเสียงลมหายใจ เสียงที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงชั่วคราวหรือเป็นอย่างต่อเนื่อง และอาจเกิดขึ้นเพียงข้างเดียวหรือพร้อมกันทั้ง 2 ข้างก็ได้

                        สาเหตุของอาการหูอื้อ อาจเแบ่งตามเสียงที่ได้ยินดังนี้

                        - เสียงแหลมวี้ด ๆ เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นใน จากอายุที่มากขึ้น หรือจากการได้ยินเสียงดังเป็นเวลานาน ๆ หรือจากการได้ยินเสียงดังมาก ๆ ในทันที เช่น เสียงระเบิด การใช้ยาบางอย่างที่มีผลข้างเคียงต่อประสาทหู หรือเกิดจากมีเนื้องอกของเส้นประสาทหู

                         - เสียงหึ่ง ๆ อื้อ ๆ มักเกิดจากโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ร่วมกับอาการเวียนหัวบ้านหมุนและการได้ยินลดลง

                         - เสียงลม หรือได้ยินเสียงของร่างกายชัดกว่าปกติ เกิดจากการทำงานของท่อปรับความดันหูผิดปกติ เช่น เป็นโรคภูมิแพ้ ทำให้ท่อปรับความดันหู (eustachian tube) บวมและถ่ายเทอากาศไม่ได้ อาการมักเป็นๆหายๆ มักเป็นมากเวลาขึ้นที่สูง ขึ้นเครื่องบิน หรือดำน้ำ หรืออาจเกิดจากเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก 

                        - เสียงก้องในหู เกิดจากการมีน้ำขังในหูชั้นกลาง

                        - เสียงตุบ ๆ หรือเสียงฟู่ ๆ ที่ดังตามจังหวะการเต้นของชีพจร อาจเกิดจากเนื้องอกในช่องหู หรืออาจเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด ซึ่งเป็นภาวะบางอย่างที่ทำให้เลือดในร่างกายเพิ่มขึ้นและหัวใจต้องบีบตัวแรงขึ้นจนส่งผลให้เกิดเสียงดังในหู เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ, หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอตีบ หัวใจรั่ว เป็นต้น

                        สาเหตุอื่นๆ นอกจากนี้ ได้แก่ การมีขี้หูอุดตัน การดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ โกโก้  สิ่งแปลกปลอมหรือแมลงเข้าหู หูอื้อที่เกิดหลังจากเป็นหวัด นอกจากนี้อาจเกิดจากภาวะเครียด วิตกกังวล อารมณ์ซึมเศร้า หรือเกิดจากนอนไม่หลับ เป็นต้น 

                         หากอาการหูอื้อเป็นติดต่อกันนาน หรืออาการเป็นมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน แนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางหู-คอ-จมูกเพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ