ถามแพทย์ กลับไปที่ชุมชนถามตอบ เริมที่อวัยวะเพศ เจ้าชาย พันธุ์เพี้ยน สมาชิก Mar 29, 2017 at 05:29 PM หมอครับผมเป็นเริมที่อวัยวะเพศ ผมจะมีเพศสัมพันได้ตามปกติมั้ยครับตอนนี้กังวนมากๆ พญ. นงนภัส เก้าเอี้ยน แพทย์ Mar 30, 2017 at 10:39 AM สวัสดีค่ะ คุณ เจ้าชาย พันธ์ุเพี้ยน เริมที่อวัยวะเพศ หากเป็นการติดเชื้อเริมที่อวัยวะเพศครั้งแรกมักจะมีอาการที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ได้แก่ อาการตุ่มน้ำใสขนาดเล็ก และแผลเปิดบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ต้นขาและบั้นท้าย เวลาปัสสาวะจะรู้สึกเจ็บ มีความรู้สึกไม่สบาย ปวดเมื่อยเหมือนเป็นไข้ โดยอาการทั้งหมดอาจกินเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามแผลตุ่มน้ำที่ขึ้นตามอวัยวะเพศจะตกสะเก็ดและหายเป็นปกติโดยไม่มีแผลเป็น ในช่วงที่ติดเชื้อยังไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ค่ะ เพราะเชื้อสามารถแพร่กระจายไปยังคู่นอนได้ และทำให้แผลหายช้าหรือมีอาการเจ็บได้ค่ะ นอกจากนี้การเสียดสีอาจทำให้มีเลือดออกหรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียเพิ่มเติมได้ค่ะ หลังจากแผลแห้งตกสะเก็ดและหายดีแล้วสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติค่ะ อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีอาการแล้วแต่เชื้อไวรัสยังคงซ่อนตัวอยู่บริเวณใกล้เส้นประสาท ซึ่งสามารถทำให้กลับมาเกิดการติดเชื้อซ้ำได้อีกค่ะ หากเป็นซ้ำครั้งถัดๆมาอาการจะรุนแรงน้อยลงค่ะ อาจมีอาการแสบร้อน คัน รู้สึกเจ็บที่บริเวณอวัยวะเพศ จากนั้นจะมีตุ่มน้ำใสขึ้น โดยจะมีตุ่มน้ำขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ต้นขา หรือบั้นท้ายได้ และตุ่มน้ำจะตกสะเก็ดแห้งคล้ายกับตอนที่เป็นครั้งแรกค่ะ การรักษาเริมที่อวัยวะเพศทำได้โดย 1. ทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นเบาๆ หากมีอาการปวดหรือเจ็บที่บริเวณแผลให้ล้างบริเวณรอบ ๆ แผลด้วยน้ำอุ่นอย่างน้อยวันละ 3-4 ครั้ง 2. ซับแผลเบาๆ หรือใช้ลมเป่าให้แห้ง หลังจากล้างทำความสะอาดบริเวณแผลแล้วควรใช้ลมเป่าให้แห้งแทนการเช็ดด้วยผ้าเพื่อป้องกันการเสียดสีจนเกิดการระคายเคือง 3. สวมใส่ชั้นในที่ผลิตจากผ้าคอตตอน และโปร่งสบาย และไม่ควรสวมใส่ชั้นในที่ฟิตจนเกินไปเพราะอาจทำให้แผลถูกเสียดสีได้ 4. ใช้ยาต้านไวรัส เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อและอาจช่วยให้อาการหายไวขึ้น ซึ่งมีรูปแบบยาครีมและยารับประทาน หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแทรกซ้อน เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว แผลจำนวนมาก หรือปวดแสบแผลมาก ควรไปพบแพทย์ค่ะ อาจจะต้องให้ยากลุ่มแก้ปวดอื่นๆเพิ่มเติมหรือต้องให้ยาต้านไวรัสชนิดรับประทานร่วมด้วยค่ะ Share: กลับไปที่ชุมชนถามตอบ