แฟนกินยา Teevir แล้วมีผลข้างเคียงมาก ตอนนี้อยากหยุดยา ควรทำอย่างไร

สวัสดีค่ะคุณ Dwteds

โรค hiv คือการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลง จนติดเชื้อฉวยโอกาสที่รุนแรงเช่นเชื้อราในปอด ในสมองและมักจะเสียชีิวิตจากเชื้อฉวยโอกาสมากที่สุด โดยหากตรวจเลือดเจอว่ามีโรค hiv แล้ว และตรวจพบว่าระดับภูมิคุ้มกันในร่างกายลดต่ำจนถึงระดับหนึ่ง จะเป็นข้อบ่งชี้ในการรับประทานยาต้านไวรัส

ยา Teevir เป็นยาต้านไวรัสที่มีส่วนประกอบของยา 3 ตัวได้แก่ Tenofovir  Emtricitabine  และ efaviren การทำเป็นยารวมเพื่อจะได้กินได้ง่ายขึ้นค่ะ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากยาในช่วงแรกได้แก่ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องอืด นอนไม่หลับ ฝันร้าย มีผื่นขึ้นเล็กน้อย ซึ่งน่าจะเป็นอาการที่แฟนคุณ Dwteds ประสบอยู่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือนอาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปได้เองค่ะ

ผลข้างเคียงอื่นๆที่สำคัญของยาเช่น ภาวะซีด ตับหรือตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน ชาปลายมือปลายเท้า นิ่วในไต ซึ่งพบได้ทุกช่วงของการกินยา โดยแพทย์ผู้รักษาจะทำการเจาะเลือดตรวจดูเป็นระยะ และเมื่อไปรับยาแพทย์ก็จะถามอาการที่อาจเป็นผลข้างเคียงทุกครั้งอยู่แล้วค่ะ

แนะนำว่าควรจะกินยาทุกวันติดต่อกันไม่ขาดยานะคะ เนื่องจากโรคนี้สำคัญก็คือต้องกินยาต้านไวรัสทุกวันตรงเวลา เพื่อควบคุมปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกายให้ได้ค่ะ หากควบคุมปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกายไว้ได้ อาจมีคุณภาพชีิวิตและอายุขัยได้ใกล้เคียงคนปกติค่ะ และที่สำคัญห้ามขาดการรักษาเด็ดขาด ทั้งหมดนี้ก็ทำเพื่อสุขภาพของแฟนเองนะคะ