-
ตรวจมะเร็งปากมดลูก พบเป็น HSIL ต้องทำ LEEP ไม่ทำได้ไหม จะเป็นมะเร็งไหม
-
Oct 28, 2019 at 11:54 PM
สวัสดีค่ะขอสอบถาม ผลตรวจมะเร็งปากมดลูกเมื่อปีกว่าๆ เป็น ASC-US และตอนนี้เป็น HSIL อยากทราบว่าเซลมันสามารถเปลี่ยนแปลงจากปกติเป็น HSIL ภายในไม่ถึง 2 ปีได้หรอคะ และคุณหมอที่ตรวจ(หมอที่เมกาค่ะ)แนะนำให้ทำ LEEP ตัดปากมดลูกออกไป ซึ่งเราไม่อยากทำเพราะมันมีผลข้างเคียงต่างๆในระยะยาวเพราะมันเชื่อมกับเส้นประสาทในสมองด้วย พยายามเสริทข้อมูลต่างๆในเน็ตเป็นภาษาอังกฤษทำการอ่านเพื่อให้เข้าใจ มีคำถามดังต่อไปนี้ค่ะ
1 CIN 3 จะเปลี่ยนเป็นมะเร็งโดยใช้เวลา 10-20 ใช่รึเปล่าคะ
2 ถ้าเป็นCIN 3แล้ว กี่เปอร์เซ็นของผุ้ที่ติดเชื้อจะกลายเป็นมะเร็งคะ ในเวปนึงที่เสริทบอกว่าแค่ 12% ซึ่งมันน้อยมาก ใช่รึเปล่าคะ?
3 ถ้าเราไม่ทำ LEEP และรอให้เป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 ก่อนจากนั้นค่อยตัดมดลูกทิ้งไปเลยแบบนี้ได้มั๊ยคะ จะหายขาดมั๊ยคะ (เพราะบางคนเห็นทำLEEPแล้วก็ไม่เห็นหายซักทีต้องตัด 2-3 รอบดูทรมารมาก)
4 ผลตรวจ HPV 16/18 negative ค่ะเท่ากับว่าต่อให้มี CIN 3 ความเสี่ยงจากมะเร็งปากมดลูกน้อยลงมั๊ยคะ เพราะ HPV16/18 เป็นตัวหลักทำให้เป็นมะเร็ง
ขอบคุณค่ะ
Oct 29, 2019 at 07:58 AM
สวัสดีค่ะ คุณ Masuri,
หากผลการตรวจหามะเร็งปากมดลูก พบเซลล์ผิดปกติเป็น ASC-US ก็แสดงว่ามีเซลล์ที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นได้ตั้งแต่ CIN1-CIN3 ซึ่งโดยปกติ ก็จะต้องมีการตัดชิ้นเนื้อที่ปากมดลูกไปตรวจยืนยันค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากหลังจากนั้น ได้มีการตรวจหามะเร็งปากมดลูกซ้ำอีกครั้ง แล้วพบผลเป็น HSIL ก็แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นจริง ซึ่งโดยปกติ ก็ควรต้องมีการตัดชิ้นเนื้อที่ปากมดลูกไปตรวจยืนยันว่ามีความผิดปกติในระดับใด คือเป็น CIN1-CIN3 อย่างไรก็ตาม แนวทางการปฏิบัติในแต่ละประเทศอาจไม่เหมือนกัน เมื่อตรวจพบความผิดปกติ ก็อาจให้การรักษาไปเลยก็ได้ ซึ่งการรักษาก็คือการตัดปากมดลูกออกบางส่วนค่ะ โดยอาจใช้วิธี LEEP ดังที่แพทย์แนะนำให้รักษาค่ะ
1. หากไม่รักษา CIN3 มีโอกาสจะกลายเป็นมะเร็งใน 10-30 ปี
2. โอกาสที่ CIN3 จะกลายเป็นมะเร็งมีประมาณ 22% ประมาณ 48% อาการจะคงที่ ที่เหลืออาจกลับมาปกติได้
3. หากปล่อยให้กลายเป็นมะเร็งปากมดลูก การรักษา ก็ต้องอาศัยการผ่าตัด ซึ่งจะแตกต่างจากการผ่าตัดมดลูกที่เกิดจากโรคที่ไม่ใช่มะเร็ง เพราะต้องมีการเลาะต่อมน้ำเหลืองและเนื้อเยื่อรอบๆ ออก ทำให้การผ่าตัดมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากกว่าและอันตรายกว่า นอกจากนี้ หลังการผ่าตัด ต้องมีการการฉายรังสีรักษา รวมถึงอาจมีการให้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย ซึ่งผลข้างเคียงต่างๆ จากการรักษาเหล่านี้ ย่อมมีมากกว่าการตัดแค่ปากมดลูกออกค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากไม่ต้องการทำ LEEP และจะไม่ได้ต้องการมีลูกแล้ว ก็อาจเลือกวิธีการผ่าตัดมดลูกออกไปเลยก็ได้ค่ะ โดยจะเป็นการผ่าตัดมดลูกธรรมดา ไม่ต้องมีการเลาะต่อมน้ำเหลืองและเนื้อเยื่อเหมือนกับเคสที่เป็นมะรเ็งปากมดลูก แต่หากต้องการมีลูก ก็ให้เลือกการทำ LEEP ค่ะ
4. เชื้อไวรัส HPV สายพันธ์ุที่มีความเสี่ยงสูงที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกนั้น มีหลายสายพันธ์ุ เช่น 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 66, 68 เป็นต้น เพียงแต่ที่พบได้บ่อยคือ ชนิด 16 และ 18 ดังนั้น แม้จะไม่ได้มีการติดเชื้อสายพันธ์ุ 16 และ 18 แต่ติดสายพันธ์ุอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูง ก็ย่อมมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งปากมดลูกได้เช่นกัน
-
ถามแพทย์
-
ตรวจมะเร็งปากมดลูก พบเป็น HSIL ต้องทำ LEEP ไม่ทำได้ไหม จะเป็นมะเร็งไหม