ถามแพทย์

  • ผลการตรวจเลือดหา HIV ของโรงพยาบาล 2 ครั้งไม่ตรงกัน ควรทำอย่างไร

  •  nooning
    สมาชิก

    ดิฉันเคยตรวจเลือดที่จะผ่าตัดที่สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว ซึ่งคุณหมอได้ตรวจครั้งแรกแล้วแจ้งว่าผลตรวจไม่ชัดเจน จึงให้ตรวจครั้ง หลังจากตรวจครั้งที่สอง คุณหมอแจ้งว่าผลเลือดมีเชื้อ HIV และแนะนำให้ตรวจครั้งที่สาม ซึ่งดิฉันยังไม่ได้ตรวจเพราะกลัว

        ต่อมาเมื่อต้นเดือนนี้ดิฉันได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งบอกกับทางโรงพยาบาลว่าตรวจหาเชื้อ HIV เพื่อจะไปทำประกัน ซึ่งคุณหมอได้ตรวจครั้งเดียว และแจ้งว่าผลเป็นลบ

        ดิฉันเลยสงสัยว่าทำไมผลตรวจถึงไม่ตรงกันคะ ผลตรวจมีความผิดพลาดได้หรือป่าวคะ ซึ่งดิฉันยังไม่กล้าไปตรวจอีกครั้งค่ะ

    nooning  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ nooning

    HIV คือโรคที่เกิดจากการเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องจนถึงแก่ชีวิตได้ ไวรัสชนิดนี้จะติดต่อกันผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย  ช่องทางอื่นๆที่เป็นไปได้เช่น การสัมผัสสารคัดหลั่งจากเยื่อบุตา ปาก อวัยวะเพศของกันและกัน การใช้ของมีคมร่วมกัน หรือของใช้ส่วนตัวที่มีสารคัดหลั่งติดอยู่ร่วมกัน การที่สารคัดหลั่งหรือเลือดมาโดนแผลเปิดขนาดใหญ่ที่ผิวหนัง เป็นต้น จึงควรหลีกเลี่ยงการไปเสี่ยงรับเชื้อ HIV ดังช่องทางต่างๆที่กล่าวไป

    การตรวจว่ามีการติดเชื้อ hiv หรือไม่นั้นมีหลายวิธี เช่น การตรวจเชื้อ hiv เองเลย อันนี้จะตรวจยากและมีค่าใช้จ่ายสูง ผลแน่นอนภายใน 7-10 วันหลังมีความเสี่ยง วิธีที่สองคือการตรวจทั้งภูมิคุ้มกัน hiv กับเชื้อไปร่วมกัน จะให้ผลที่แน่นอนที่ประมาณ 14-21 วันหลังมีความเสี่ยง หรือการตรวจภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ hiv ให้ผลแน่นอนมากกว่า 99% ที่ 3 เดือน เป็นวิธีที่ใช้ยืนยันผล

    ซึ่งหากเสี่ยงมาเกิน 3 เดือนแล้ว สามารถตรวจให้ผลที่แน่นอนได้แล้วไม่ว่าจะเป็นวิธีการใด โดยการตรวจที่ให้ผลไม่เหมือนกัน 2 ครั้งนั้น อาจจะต้องมีการยืนยันครั้งที่ 3 ด้วยวิธีเดิมหรือวิธีที่ต่างออกไป แนะนำการไปพบแพทย์ที่รพ. นำผลตรวจของทั้งสองครั้งที่ไม่ตรงกันไปปรึกษาแพทย์เพื่อเจาะเลือดซ้ำอีกครั้งให้ได้ผลที่แน่ชัดต่อไปค่ะ