ถามแพทย์ กลับไปที่ชุมชนถามตอบ เลือดออกผิดปกติหลังฉีดยาคุม แค่คน ธรรมดา สมาชิก Jun 14, 2017 at 10:27 PM คือไปฉีดยาคุมกำเนิดมาได้อาทิตย์หนึ่งค่ะมีเลือดกะปริตกะปรอยก็หาย พอเข้าเดือนที่สองก็เป็นอีกจนครบกำำหนดยาคุมก็ไม่หายจะชอบปวดท้องหน่วงๆยุเสมอและเลือดก็เป็นสีน้ำำตาลไม่เหมือนเลือดค่ะ แพทย์หญิงสุจิณันฐ์ นันทาภิวัธน์ แพทย์ Jun 15, 2017 at 12:17 AM สวัสดีค่ะ คุณ แค่คุณธรรมดา การที่ใช้ยาฉีดคุมกำเนิด ยาคุมแบบฉีด ซึ่งตัวยาหลักคือ โปรเจสเตอโรนค่ะ โดยทั่วไป ในประเทศไทยมีหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบค่ะ คือ สามารถ ใช้ฉีดทุก 3 เดือน ส่วนฮอร์โมนผสม เอสโตรเจน กับโปรเจสเตอโรน สามารถฉีดได้ทุก 1 เดือนค่ะ มีข้อดีคือ ประจำเดือนจะค่อยๆน้อยลง ทำให้ลดอาการปวดท้องประจำเดือน จนสุดท้ายถ้าใช้ติดต่อกันนานๆ เกิน 6-12 เดือน อาจทำให้ไม่มีประจำเดือนมา อีกทั้งไม่ต้องรับประทานยาทุกวัน เหมือนยาเม็ดคุมกำเนิด ส่วนการฉีด 1 เดือน จะสามารถเเก้ไขปัญหาของแบบ 3 เดือน คือ เลือดออกจากที่กระปริบกระปรอย ให้มาตรงรอบมากขึ้น แต่ระยะยาว ก็อาจทำให้ประจำเดือนหายไปได้เช่นกัน ทั้งนี้การใช้ยาฉีดคุมกำเนิด ถ้าก่อนฉีดมั่นใจไม่ตั้งครรภ์แน่ๆ ซึ่งอาจตรวจด้วยการตรวจปัสสาวะ ส่วนมากมักเกิดจากฮอร์โมนในตัวยาคุมค่ะ ซึ่งช่วง 3-6 เดือนแรกมักมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้มาก ซึ่งจะเป็นเลือดสีน้ำตาลๆได้ ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือนทั่วไปค่ะ แต่เป็นเลือดที่ออกจากฮอร์โมน ดังนั้นถ้าร่างกายปรับสภาพได้ ผ่าน 6 เดือนไปมักจะดีขึ้นค่ะ แต่ถ้าเลือดออกนาน ออกติดต่อกัน มีอาการหน้ามืด ใจสั่น คล้ายจะเป็นลม เเนะนำให้ไปพบสูตินรีเเพทย์ค่ะ เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม ร่วมกับการให้ยาในการปรับฮอร์โมน และยาหยุดเลือดค่ะ Share: กลับไปที่ชุมชนถามตอบ