ถามแพทย์

  • ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีออกแล้ว ใส่ท่อระบายแล้ว แต่ยังตัวเหลืองอยู่ ควรทำอย่างไร

  •  alpw_st
    สมาชิก
    ขออนุญาตสอบถามค่ะ พอดีว่าคุณพ่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี เบื้องต้นได้ทำการรักษาโดยการใส่ท่อเพื่อขยายท่อในถุงน้ำดีค่ะ จากนั้นคุณหมอได้ผ่านิ่วในถุงน้ำดีออกด้วยวิธีการผ่าช่องท้อง ซึ่งยังไม่ได้มีการเอาท่อที่ใส่อยู่เดิมออก หลังจากพักฟื้นสักระยะ คุณหมอได้นัดคุณพ่อเพื่อนำท่อที่ใส่ในถุงน้ำดีออกค่ะ แต่หลังจากนั้นคุณพ่อก็มีอาการตัวเหลือง ตาเหลืองแบบเข้ม ๆ ขึ้นมา ซึ่งคุณหมอบอกแค่ให้มาพักผ่อนที่บ้านแล้วอาการจะดีขึ้นเองค่ะ แต่หลังจากมาพักฟื้นที่บ้านสามวัน อาการตัวเหลือง ตาเหลืองยังไม่หาย จึงกลับไปพบคุณหมออีกรอบ คุณหมอวินิจฉัยว่ายังมีนิ่วในถุงน้ำดีอยู่ที่เป็นเม็ดเล็ก ๆ เหนียว ๆ ซึ่งพอเอาท่อออกจึงทำให้นิ่วนั้นมาอุดตันที่ท่อถุงน้ำดีค่ะ คุณหมอจึงให้ใส่ท่อกลับเข้าไปอีกครั้งแล้วบอกว่าอาการจะดีขึ้น แต่ตอนนี้ผ่านมา 5 วันหลังจากใส่ท่อเข้าไปใหม่แล้วค่ะ คุณพ่อยังมีอาการตัวเหลือง ตาเหลืองอย่างเห็นได้ชัดเหมือนเดิม อยากจะถามว่าอาการนี้เกิดมาจากอะไรคะ เป็นอาการร้ายแรงหรือไม่ แล้วควรทำอย่างไรต่อไปดี
    alpw_st  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ alpw_st

    นิ่วในถุงน้ำดี เป็น ก้อนนิ่วขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในถุงน้ำดี มักเกิดขึ้นเมื่อส่วนประกอบของน้ำดีโดยเฉพาะคอเลสเตอรอลและบิลิรูบิน (สารให้สีในน้ำดี) ตกตะกอนผลึกเป็นก้อน โดยก้อนนิ่วที่เกิดขึ้นนี้อาจมีขนาดเล็กเท่าเม็ดทรายหรือใหญ่เท่าลูกกอล์ฟ และอาจมีได้ตั้งแต่หนึ่งก้อนจนถึงหลายร้อยก้อนก็เป็นได้ 

    อาการเช่น ปวดท้องอย่างรุนแรงโดยเฉพาะบริเวณช่วงท้องส่วนบนหรือด้านขวา ปวดหลังบริเวณระหว่างไหล่และสะบัก คลื่นไส้ หรืออาเจียน โดยจริงๆแล้วถ้าเป็นแค่นิ่วในถุงน้ำดีอย่างเดียว ไมน่าจะมีอาการเหลือง ยกเว้นว่านิ่วลงไปอุดตันที่ท่อน้ำดีและทำให้ท่อน้ำดีอักเสบร่วมด้วย

    ท่อน้ำดีอักอักเสบ เกิดจากก้อนนิ่วเข้าไปปิดกั้นท่อน้ำดี ซึ่งเป็นทางที่น้ำไหลผ่านจากถุงน้ำดีหรือตับสู่ลำไส้เล็ก อาจทำให้เป็นดีซ่านหรือตัวเหลืองและเกิดการติดเชื้อในท่อน้ำดีด้วยได้ การรักษาคือการไปเอานิ่วออก หรือใส่สายระบายน้ำดีที่ค้าง ร่วมกับให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดภายใต้การดูแลของแพทย์

    จากที่กล่าวมา หลังการใส่ท่อระบายมาแล้ว ถ้ายังมีอาการเหลืองซ้ำขึ้นมาอีก อาาจจะเกิดจากท่อที่ระบายอุดตัน ไม่สามารถระบายน้ำออกมาได้ หรือเกิดการติดเชื้อใหม่ แนะนำการกลับไปพบแพทย์ที่ดูแลเพื่อตรวจประเมินซ้ำอีกครั้ง ซึ่งแพทย์อาจจะเจาะเลือด และ เช็กสายที่ระบายให้อีกครั้ง