ฝังเข็มคุมกำเนิด ปัสสาวะบ่อย เวียนหัว ตรวจปัสสาวะ 2 ครั้งแล้วขึ้น 1 ขีด จะท้องไหมคะ

สวัสดีค่ะ คุณ Chanikran Kungarm,

              หากได้เริ่มฝังยาคุมกำเนิด ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาฝังคุมกำเนิดก็จะสามารถออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที โดยประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ของยาฝังคุมกำเนิดทั้งแบบ 3 ปีและ 5 ปี จะเหมือนกัน คือมีโอกาสการล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้เพียง 0.05% หรือเท่ากับ 1 ใน 2000 คน ซึ่งดีกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดและยาฉีดคุมกำเนิด

            แต่หากได้เริ่มฝังยาคุมกำเนิด ในช่วงเวลาอื่น นอกจากช่วง 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาฝังคุมกำเนิดจะยังไม่ออกฤทธิ์ได้ทันที โดยจะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากฝังยาไปแล้วประมาณ 7 วัน ดังนั้นในช่วง 7 วันแรกหลังฝังยาคุม จึงควรงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยไปก่อน ซึ่งหากไม่ได้ป้องกันในช่วง 7 วันแรกนี้ ก็มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ

          ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่ามีเพศสัมพันธ์หลังฝังมาได้เกิน 1 สัปดาห์หรือยังค่ะ หากเลยมาแล้ว โอกาสในการตั้งครรภ์ก็น้อยอย่างยิ่งค่ะ อีกทั้งหากได้ตรวจหาการตั้งครรภ์แล้วถึง 2 ครั้งและไม่พบการตั้งครรภ์ ดังนั้นอาการปัสสาวะบ่อยและเวียนหัว จึงไม่ใช่อาการจากการตั้งครรภ์ค่ะ

           อาการปัสสาวะบ่อย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ซึ่งมักมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหรือแสบเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะขัด ปัสสาวะไม่สุด สีปัสสาวะขุ่นหรือมีเลือดปน เป็นต้น หรืออาจเกิดจากการดื่มน้ำมากไป อากาศเย็น มีเรื่องเครียด วิตกกังวล ก็ได้ค่ะ สำหรับอาการเวียนหัว อาจมาจากสาเหตุเดียวกับที่ปัสาวะบ่อยก็ได้ เช่น ความเครียดและวิตกกังวล นอนไม่หลับ พักผ่อนน้อย หรือหรืออาจเป็นผลข้างเคียงของยาฝังคุมกำเนิดก็ได้ค่ะ

            หากมีาอการปัสสาวะผิดปกติอื่นๆ ที่กล่าวไปร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ ส่วนอาการเวียนหัว หากเป็นต่อเนื่องหลายวัน ควรไปพบแพทย์เช่นเดียวกันค่ะ