ถามแพทย์

  • มีตุ่มแดงขึ้นที่โหนกข้างอวัยวะเพศ เจ็บมาก ต้องทำอย่างไร

  •  Sumittra Auttawang
    สมาชิก
    สอบถามค่ะพอดีมีตุ่มแดงๆขึ้นโหนกข้างขวาอวัยวะเพศสีแดงแต่ไม่มีหัวโดนแล้วเจ็บมากๆเรยค่ะต้องรอให้มีหัวก่อนไหมค่ะต้องทำยังไม่ถึงจะหายค่า

    สวัสดีค่ะ คุณ Sumittra Auttawang,

                          ตุ่มแดงๆ ที่บริเวณหัวหน่าวข้างอวัยวะเพศ อาจเป็น

                    1. รูขุมขนอักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา หรืออาจไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน อาการคือจะเห็นเป็นตุ่มแดงๆ หรืออาจเป็นหัวหนองก็ได้ มักมีอาการเจ็บๆแสบๆ หรือคันร่วมด้วย สาเหตุอาจมาจากถอนหรือโกนขน หรือการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือมีเนื้อผ้าหยาบเกินไป ทำให้เสียดสีผิวหนังและเกิดการระคายเคืองต่อรูขุมขน 

                     2. การอักเสบของผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง (cellulitis) โดยจะมีอาการบวมแดง เจ็บและปวด สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากผิวหนังที่มีรอยแผล เช่น แผลถลอกเล็กๆ ที่อาจเกิดจากการเกา เมื่อผิวหนังเกิดรอยแผล เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ผิวหนังชั้นและเนื้อเยื่อทำให้เกิดการติดเชื้ออักเสบได้ ทั้งนี้ การอักเสบของเนื้อเยื่อ อาจพัฒนากลายเป็นฝีตามมาได้ โดยจะเห็นหัวสีขาว หรืออาจเห็นหนองไหลออกมา

                     3. แผลเป็นชนิดนูน (hypertrophic scar) แต่จะไม่ได้ทำให้มีอาการเจ็บ

                    4. ก้อนเนื้องอกของผิวหนังและชั้นใต้ผิวหนัง เช่น ก้อนเนื้องอกหลอดเลือด ซึ่งจะมีสีออกแดง-น้ำตาลได้ เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีอาการเจ็บ

                    ในเบื้องต้น ให้งดการโกนหรือถอนขน งดการใช้สารต่างๆ ที่จะนำมาทาที่บริเวณผิวหนังใกล้อวัยวะเพศ เช่น แป้ง โลชั่น น้ำหอม เป็นต้น และควรรักษาความสะอาด อาจใช้สบู่สำหรับฆ่าเชื้อฟอก แล้วล้างให้สะอาด ไม่ใส่กางเกงชั้นในและกางเกงที่รัดแน่นจนเกินไป เป็นต้น หากมีอาการปวด เจ็บมากขึ้น หรือกลายเป็นหัวหนอง คือเห็นมีหัวสีขาว หรือตุ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น กก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Sumittra Auttawang,

                          ตุ่มสีแดงที่บริเวณหัวหน่าวข้างอวัยวะเพศ อาจเป็น

                       1. รูขุมขนอักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา หรืออาจไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน อาการคือจะเห็นเป็นตุ่มแดงๆ หรืออาจเป็นหัวหนองก็ได้ มักมีอาการเจ็บๆแสบๆ หรือคันร่วมด้วย สาเหตุอาจมาจากถอนหรือโกนขน หรือการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือมีเนื้อผ้าหยาบเกินไป ทำให้เสียดสีผิวหนังและเกิดการระคายเคืองต่อรูขุมขน 

                        2. การอักเสบของผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง (cellulitis) โดยจะมีอาการบวมแดง เจ็บและปวด สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากผิวหนังที่มีรอยแผล เช่น แผลถลอกเล็กๆ ที่อาจเกิดจากการเกา เมื่อผิวหนังเกิดรอยแผล เชื้อโรคก็จะเข้าสู่ผิวหนังชั้นและเนื้อเยื่อทำให้เกิดการติดเชื้ออักเสบได้ ทั้งนี้ การอักเสบของเนื้อเยื่อ อาจพัฒนากลายเป็นฝีตามมาได้ ซึ่งจะเห็นหัวเป็นสีขาว หรืออาจมีหนองไหลออกมา

                        3. แผลเป็นชนิดนูน (hypertrophic scar) แต่ไม่ได้ทำให้มีอาการเจ็บ

                    4. ก้อนเนื้องอกของผิวหนังและชั้นใต้ผิวหนัง เช่น ก้อนเนื้องอกหลอดเลือด ซึ่งจะมีสีออกแดง-น้ำตาลได้ เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีอาการเจ็บ

                    ในเบื้องต้นให้งดการโกนหรือถอนขน งดการใช้สารต่างๆ ที่จะนำมาทาที่บริเวณผิวหนังใกล้อวัยวะเพศ เช่น แป้ง โลชั่น น้ำหอม เป็นต้น และควรรักษาความสะอาด อาจใช้สบู่สำหรับฆ่าเชื้อฟอก แล้วล้างให้สะอาด ไม่ใส่กางเกงชั้นในและกางเกงที่รัดแน่นจนเกินไป เป็นต้น หากตุ่มไม่หายไป หรือมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หรือเจ็บปวดมากขึ้น หรือกลายเป็นหัวหนองหรือแผล ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ