ปวดหัวเข่าข้างซ้าย ส่วนนิ้วเท้าข้างซ้ายมีอาการชาบ่อย ใช่อาการของโรคเก๊าท์หรือเปล่า

สวัสดีค่ะ คุณ Sahaporn,

          อาการของโรคเก๊าท์ คือ อาการปวดข้อที่เกิดขึ้นทันทีแบบฉับพลัน (มักเกิดขึ้นภายใน 1 วัน) ถ้าเป็นการปวดครั้งแรกมักจะเป็นเพียงข้อเดียว ซึ่งข้อที่พบว่าปวดกันมาก คือ นิ้วหัวแม่เท้า บางรายอาจเป็นตรงส่วนข้อเท้า ข้อเข่า โดยข้อที่ปวดจะมีอาการบวม แดง ร้อนร่วมด้วย มักปวดมากจนเดินไม่ไหว โดยการปวดจะรุนแรงในช่วง 4-12 ชั่วโมงแรก จากนั้นจะเริ่มปวดน้อยลงและอาการจะดีขึ้นเองภายในไม่กี่วันแม้ไม่ได้รับการักษา เมื่ออาการเริ่มทุเลาลง ผิวหนังบริเวณข้อที่ปวดจะลอกและคัน

          ถ้าไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาควบคุมระดับกรดยูริค ในระยะแรก ๆ อาการอาจกำเริบทุก 1-2 ปี โดยจะเป็นที่ข้อเดิม แต่ต่อมาจะเป็นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งอาจเป็นทุกเดือน หรือเดือนละหลายครั้ง และระยะเวลาของการปวดในแต่ละครั้งจะนานมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกันอาจปวดนานอยู่หลายสัปดาห์ จนกระทั่งปวดตลอดเวลาในที่สุด ส่วนข้อที่ปวดก็จะเพิ่มจากข้อเดียวเป็น 2-3 ข้อ เช่น ข้อมือ ข้อศอก ข้อเข่า ข้อเท้า นิ้วมือ นิ้วเท้า จนกระทั่งเป็นเกือบทุกข้อ

            ในระยะหลัง ๆ เมื่อข้ออักเสบหลายข้อขึ้น จะพบก้อนขึ้นที่บริเวณที่เคยอักเสบบ่อย ๆ เช่น ข้อนิ้วเท้า ข้อนิ้วมือ ข้อศอก ข้อเข่า รวมทั้งที่หู เรียกว่าปุ่มโรคเกาต์ (Tophi) ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของกรดยูริก บางครั้งแตกออกเป็นสารขาว ๆ คล้ายกับยาสีฟันไหลออกมา และกลายเป็นแผลเรื้อรัง หายช้า และในที่สุดข้อต่าง ๆ ก็จะพิการจนใช้งานไม่ได้

           ดังนั้นหากอาการปวดเข่าคุณ Sahaporn ไม่ได้เป็นรุนแรงแบบฉับพลันที่มีอาการบวมและแดง ปวดมากจนเดินไม่ได้ ก็ไม่น่าใช่อาการกำเริบของโรคเก๊าท์ค่ะ หากอาการปวดเข่าเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ปวดตามการใช้งาน มีข้อฝืดในช่วงเช้า มีเสียงกร๊อบแกร๊บดังในเข่า อาจเป็นอาการของโรคเข่าเสื่อม หรือหากเป็นนักกีฬาหรือออกกำลังกายประเภทวิ่ง กระโดดหรือปั่นจักรยานเป็นประจำ อาจเกิดจากโรคพังผืดอักเสบ (iliotibial band syndrome) หรือกล้ามเนื้ออักเสบ (hamstring strain) หากเป็นนักฟุตบอลอาจเกิดจากเอ็นไขว้ที่อยู่หน้าเข่าฉีกขาด หากชอบนั่งคุกเข่าเป็นประจำหรือเคยเกิดอุบัติเหตุหกล้มเข่ากระแทกโดยตรง อาจทำให้เกิดถุงน้ำบนลูกสะบ้าอักเสบ (prepatella bursitis) เป็นต้น

             สำหรับอาการชาของนิ้วเท้าซ้าย หากเป็นหลายนิ้วอาจเกิดจากโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดอักเสบ ขาดวิตามินบี12 รวมถึงการดื่มแอลกอฮอลล์เป็นประจำ เป็นต้น

             แนะนำให้คุณ Sahaporn ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุนะคะ รวมถึงตรวจเลือดคัดกรองหาโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือด และดูระดับกรดยูริคด้วยค่ะ