เป็นภูมิแพ้อากาศ ปวดหัวข้างเดียวบ่อย เกี่ยวกันไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Sirilak Srisompoch,

                     โรคภูมิแพ้ ชนิดแพ้อากาศ (allergic rhinitis) เป็นโรคที่มีการอักเสบบริเวณโพรงจมูก เนื่องจากแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ อาการ ได้แก่ มีน้ำมูกใสไหล คัดจมูก คันตา คันจมูก คันเพดานปาก คันลำคอ มีเสมหะ ไอ การได้กลิ่นลดลง ตาแดง ตาบวม บริเวณใต้ตามักเป็นรอยคล้ำดำ นอกจากนี้ ก็อาจทำให้มีปวดหัว หูอื้อได้ จากการที่มีน้ำมูกคั่งในโพรงอากาศข้างจมูก โดบอาการจะเป็นติดต่อระยะเวลานานๆ อาจมีช่วงที่ดีขึ้นสลับกับช่วงอาการกำเริบ

                       ดังนั้น หากมีอาการต่างๆ ของโรคภูมิแพ้อากาศอยู่ และมีอาการปวดหัวร่วม ก็ถือว่าเกิดจากสาเหตุเดียวกันได้ หากอาการเป็นไม่รุนแรง ก็ให้ดูแลรักษาตามอาการไป เช่น การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการ หลีกเลี่ยงการโดนอากาศเย็น ไม่ดื่มน้ำเย็น หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ และหากอยู่ในที่ที่มีฝุ่นละอองมาก ก็ควรใส่หน้ากากที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอนไว้ด้วย และอาจทานยาในกลุ่ม antihistamine เช่น cetirizine (เซทิริซีน), chlorpheniramine (CPM), loratadine (ลอราทาดีน) เป็นต้น นอกจากนี้ ก็ควรเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น เพื่อช่วยลดการกำเริบของอาการ เช่น การทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะเน้นทานผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้น

                       แต่หากไม่ได้มีอาการต่างๆ ของโรคภูมิแพ้อยู่ แล้วมีแต่เฉพาะอาการปวดหัว หรืออาการปวดหัวเป็นอาการเด่น โดยที่อาการอื่นๆ มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สาเหตุของการปวดหัวก็ไม่น่าเกิดจากโรคภูมิแพ้ โดยอาจเกิดจากสาเหตุ เช่น การมีความเครียด ปวดศีรษะไมเกรน การใช้สายตามากไป นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ มีไข้จากสาเหตุต่างๆ อยู่ เป็นต้น ซึ่งหากเป็นไม่รุนแรง ก็ให้ทานยาแก้ปวดไปก่อน เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน เป็นต้น หากอาการไม่หายไป และเป็นมากขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ