ถามแพทย์

  • ผมมีอาการปวดท้องบริเวณกระเพราะอาหาร ปวดติดต่อกันได้ราว 2 อาทิตย์

  •  ShiRoyasha SD
    สมาชิก
    รบกวนคุณหมอด้วยนะครับ ผมมีอาการปวดท้องบริเวณกระเพราะอาหาร ปวดติดต่อกันได้ราว 2 อาทิตย์ปวดไม่หนักมากพอทนได้ ตั้งแต่ผมเริ่มปวดท้องสังเกตุการถ่ายอุจจาระก็เริ่มเปลี่ยนไป เริ่มถ่ายน้อยลงทั้งๆที่รับประทานอาหารตามปกติ อุจจาระก้อนเล็กลง รู้สึกหิวน้อยลง อาการแบบนี้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้รึป่าวครับผมอายุ26ปี เป็นคนค่อนข้างอ้วน ชอบทานของทอดของมันด้วยครับ

     สวัสดีค่ะคุณ  ShiRoyasha SD

    อาการปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ หรือกลางท้องส่วนบน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เกิดความผิดปกติของกระเพาะอาหารหรือลำไส้ อย่างโรคกระเพาะ หรืออาจเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย หรืออาจเกิดความผิดปกติจากตับ ทางเดินน้ำดี ตับอ่อน ลำไส้ หรืออาจเกิดจากกระดูก กล้ามเนื้อ หรือผิวหนังบริเวณนั้น หรืออาจเกิดอวัยวะในระบบอื่นที่อยู่ใกล้เคียง อย่างหัวใจ หรือปอด ก็เป็นได้

    ส่วนอาการของมะเร็งลำไส้หรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจจะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่เกิดเนื้องอกค่ะ ส่วนใหญ่โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มักเกิดขึ้นในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี อาการที่พบได้บ่อย เช่น

    - พฤติกรรมการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และมักเกิดขึ้นนานหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน เช่น ท้องเสีย ท้องผูก ลักษณะอุจจาระที่เปลี่ยนไป หรือรู้สึกถ่ายไม่สุดบ่อยๆ

    - ถ่ายเป็นเลือด

    - ปวดท้อง รู้สึกแน่นอึดอัดบริเวณช่วงท้องเหมือนมีแก๊สในท้อง ท้องอืด

    - อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย น้ำหนักลงโดยไม่มีสาเหตุ

    มะเร็งชนิดนี้ส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่พบปัจจัยที่มีส่วนที่ทำให้เกิดโรคได้หลายปัจจัย  อาจถูกกระตุ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม - ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะญาติสายตรง การอักเสบของในลำไส้ - อาจมาจากโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับลำไส้ใหญ่ เช่น ลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง หรือโรคโครห์น วิถีชีวิตที่ไม่ค่อยขยับร่างกาย การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ การเข้ารับการฉายแสงในการรักษามะเร็งบริเวณช่วงท้อง

    แนะนำว่า  หากมีความเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น มีอาการผิดปกติ หรือยังสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจร่างกาย และอาจต้องตรวจเพิ่มเติมอื่น แล้วจึงให้การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไปค่ะ